คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5595/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยมีและพาอาวุธปืนไม่มีทะเบียนกับกระสุนปืนของกลางโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อโจทก์มิได้ขอให้ศาลสั่งริบของกลางดังกล่าวมาในฟ้อง ศาลย่อมริบของกลางนั้นไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันมีอาวุธปืนลูกซองสั้นไม่มีทะเบียน ๑ กระบอก พร้อมกระสุนปืน และพาอาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปตามทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันปล้นปลาทูสดของผู้เสียหายโดยใช้อาวุธปืนขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะยิงผู้เสียหายและผู้อื่นในบริเวณใกล้เคียงเพื่อให้ความสะดวกแก่การพาทรัพย์ไป เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมปลาทูสดของผู้เสียหาย และยึดอาวุธปืนและกระสุนปืนที่จำเลยกับพวกมีและใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๓๔๐ ตรี, ๘๓, ๙๑ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน (ฉบับที่ ๔๔) พ.ศ. ๒๕๑๙ ข้อ ๓, ๖, ๗
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๓๔๐ ตรี ๘๓ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ.๗๒, ๗๒ ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ พ.ศ. ๒๕๑๙ ข้อ ๓, ๖, ๗ ความผิดฐานปล้นทรัพย์ จำคุกคนละ ๑๘ ปี ความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ ๑ ปี ฐานพาไปในเมืองและหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ ๑ ปี เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ รวมจำคุกคนละ ๒๐ ปี คำรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ ๑ ใน ๔ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ ๑๕ ปี
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ ให้จำคุกคนละ ๒ ปี และจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ,๗๒, ๗๒ ทวิ ที่แก้ไขแล้ว ความผิดฐานมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุก ๑ ปี ฐานพาอาวุธปืน ให้จำคุก ๑ ปี รวมจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๔ ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพชั้นจับกุมเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๓ ปี จำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนด ๑ ปี ๖ เดือน คำขอนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดเพียงฐานลักทรัพย์เฉพาะจำเลยที่ ๑ ต้องระวางโทษหนักขึ้นกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๖ ทวิ เพราะมีอาวุธปืนในการลักทรัพย์ และวินิจฉัยว่าที่โจทก์ฎีกาขอให้ริบอาวุธปืนและกระสุนปืนของกลางนั้น โจทก์มิได้ขอให้ศาลสั่งริบของกลางดังกล่าวมาในฟ้อง ศาลจึงริบของกลางไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒ วรรคแรก
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ วรรคสาม ที่แก้ไขแล้วประกอบด้วยมาตรา ๓๓๖ ทวิ ให้จำคุก ๓ ปีและมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง, ๗๒ วรรคหนึ่ง, ๗๒ ทวิ วรรคสอง ที่แก้ไขแล้ว เมื่อรวมโทษและลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วคงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๓ ปี ๙ เดือน จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ วรรคสาม ที่แก้ไขแล้ว นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share