คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5592/2543

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การกระทำที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง ผู้กระทำต้องให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
พ. กับ อ. เป็นคนต่างด้าวสัญชาติพม่า เป็นลูกจ้างส่งน้ำแข็งที่ร้านของจำเลย แม้จำเลยให้บุคคลทั้งสองพักอาศัยที่บ้านของจำเลยแต่จำเลยมีเจตนาให้บุคคลทั้งสองทำงานให้จำเลยเท่านั้น หาได้มีเจตนาเพื่อให้บุคคลทั้งสองพ้นจากการจับกุมไม่ เมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาให้ พ. กับ อ. พ้นจากการจับกุมพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรู้อยู่ว่านายไพ กับนายอาจ่อ ไม่มีนามสกุลเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 จำเลยได้ให้คนต่างด้าวทั้งสองเข้าพักอาศัยซ่อนเร้นไว้ที่บ้านของจำเลย และรับไว้ทำงานเป็นกรรมกรส่งน้ำแข็งอันเป็นการช่วยเหลือคนต่างด้าวทั้งสองนั้นให้พ้นจากการจับกุม ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64และนับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1605/2539ของศาลชั้นต้น

จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง จำคุก 3 เดือน ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1605/2539 ของศาลชั้นต้นนั้นไม่ปรากฏว่าศาลได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวแล้ว จึงให้ยกคำขอส่วนนี้

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ขณะที่นายดาบตำรวจศุภชัย ศรีสอาด กับพวกจับกุมจำเลยข้อหาขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ได้พบนายไพกับนายอาจ่อซึ่งเป็นคนต่างด้าวสัญชาติพม่า และเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 พักอาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเปิดเป็นร้านขายน้ำแข็ง

ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกมีว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า การกระทำที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 64 วรรคหนึ่ง ผู้กระทำจะต้องให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม แต่นายดาบตำรวจศุภชัย ศรีสอาดพยานโจทก์เองเบิกความว่า ขณะพยานกับพวกจับกุมจำเลยข้อหาขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 มีนายไพกับนายอาจ่อ ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาที่ร้านของจำเลย พยานสอบถามบุคคลทั้งสองได้ความว่า บุคคลทั้งสองเป็นลูกจ้างส่งน้ำแข็งให้จำเลย เพิ่งกลับจากไปส่งน้ำแข็งมา ซึ่งตรงกับทางนำสืบของจำเลยที่ว่า นายไพกับนายอาจ่อเป็นลูกจ้างทำงานที่ร้านของจำเลยจึงเชื่อได้ว่านายไพกับนายอาจ่อเป็นลูกจ้างส่งน้ำแข็งที่ร้านของจำเลย ดังนี้แม้จะฟังว่าจำเลยให้บุคคลทั้งสองพักอาศัยที่บ้านของจำเลยก็เป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาให้บุคคลทั้งสองทำงานให้จำเลยเท่านั้น หาได้มีเจตนาเพื่อให้บุคคลทั้งสองพ้นจากการจับกุมไม่ ที่จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนตามบันทึกการจับกุมและบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาเอกสารหมาย จ.1 และ จ.5 ตามลำดับ น่าจะเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมและพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่า ให้ที่พักแก่คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่บันทึกไว้ในเอกสารดังกล่าวโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาให้นายไพกับนายอาจ่อพ้นจากการจับกุม พยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง”

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share