คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยรับเงินไปจากโจทก์โดยจำเลยตกลงจะไปซื้อสุกรมาส่งให้โจทก์ ดังนี้หาใช่จำเลยตกลงจะนำเงินมาใช้คืนให้โจทก์ไม่ จึงไม่ใช่เรื่องกู้ยืมเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องบังคับคดีได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยรับเงินจากโจทก์ ๒,๐๐๐ บาท โดยรับจะไปซื้อสุกรมีชิวตมาส่งให้โจทก์ จำเลยหาได้นำสุกรมาส่งให้โจทก์ตามสัญญาไม่ โจทก์บอกเลิกสัญญาและให้จำเลยคืนเงิน จำเลยไม่นำเงินมาคืน ขอให้บังคับจำเลยคืนเงิน ๒,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่า ไม่เคยรับเงินจากโจทก์ ไม่เคยตกลงหรือสัญญาจะส่งสุกรให้โจทก์ โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่มีอำนาจฟ้อง
ในการชี้สองสถาน คู่ความท้ากันให้ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ฟ้องโดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือได้หรือไม่ ถ้าฟ้องได้ก็ให้โจทก์ชนะคดี ถ้าฟ้องไม่ได้ให้ศาลยกฟ้อง โดยโจทก์ว่าการฟ้องเรียกเงินตามฟ้องไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ฟ้องได้ จำเลยว่ารูปเรื่องเป็นเรื่องกู้ยืม เมื่อไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือจะฟ้องให้บังคับคดีหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นเห็นว่าเป็นการกู้ยืมเงินกันเกินกว่า ๕๐ บาท ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ฟ้องคดีหาได้ไม่ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กรณีตามฟ้องไม่ใช่เรื่องกู้ยืมเงิน พิพากษากลับให้จำเลยคือเงิน ๒,๐๐๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามฟ้องเป็นเรื่องที่จำเลยรับเงินไปจากโจทก์โดยจำเลยตกลงจะไปซื้อสกุรมาส่งให้โจทก์ หาใช่จำเลยตกลงจะนำเงินมาใช้คืนโจทก์ไม่ จึงไม่ใช่เป็นเรื่องกู้ยืมเงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ ไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องบังคับคดีได้
พิพากษายืน.

Share