แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้แก่โจทก์ ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจดิสโก้เธค ที่บ้านเลขที่ 1857 ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ดำเนินธุรกิจดิสโก้เธค ไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาเมื่อยึดแล้วผู้ร้องที่ 1 และที่ 2 ได้ขอเข้าดำเนินธุรกิจดิสโก้เธค ในสถานที่ดังกล่าวต่อไป ศาลชั้นต้นอนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าผู้ร้องที่ 1 และที่ 2 ต้องชำระค่าตอบแทนเดือนละ 200,000 บาท โดยนำมาวางไว้ต่อศาลเพื่อประโยชน์ของคู่ความ ดังนี้ เงินค่าตอบแทนดังกล่าวจึงเป็นการมุ่งที่จะให้เป็นค่าตอบแทนในการที่ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องที่ 1และที่ 2 เข้าดำเนินธุรกิจสถานดิสโก้เธค ซึ่งย่อมต้องอาศัยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ในสถานดิสโก้เธค นั้นเป็นหลักหาได้มุ่งถึงค่าตอบแทนในการใช้อาคารและที่ดินด้วยไม่ดังนั้น ไม่ว่าผู้ร้องที่ 3 จะเป็นผู้จะซื้อที่ดินที่ตั้งสถานดิสโก้เธค หรือไม่ก็ตาม ผู้ร้องที่ 3 ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอรับเงินค่าตอบแทนนี้ไปจากศาลได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งห้าให้ชำระหนี้แก่โจทก์ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินของจำเลยทั้งห้าไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาที่บ้านเลขที่ 1857 ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ดำเนินธุรกิจดิสโก้เธคเมื่อยึดแล้วผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ขอเข้าดำเนินธุรกิจดิสโก้เธคในสถานที่ดังกล่าว โดยขอให้ทรัพย์ที่ถูกยึดซึ่งเป็นอุปกรณ์ตกแต่งในสถานดิสโก้เธค ต่อไป ศาลชั้นต้นอนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 จะต้องชำระค่าตอบแทนเดือนละ 200,000 บาทโดยนำมาวางไว้ต่อศาลเพื่อประโยชน์ของคู่ความพร้อมทั้งให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกันการชำระค่าตอบแทนดังกล่าวด้วย ต่อมาโจทก์และจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวในคดีล้มละลายเรื่องอื่น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงเข้ามาดำเนินคดีนี้แทนโจทก์และจำเลยที่ 1 ที่ 2ที่ 3 ที่ 4 ศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2529ให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้แก่โจทก์ ส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4และที่ 5 ให้ยกฟ้อง คดีถึงที่สุด
ในระหว่างที่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธค ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ได้นำเงินค่าตอบแทนมาวางศาล200,000 บาท เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2529 ต่อมาเมื่อวันที่5 สิงหาคม 2529 ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องว่า คดีนี้ถึงที่สุดโดยโจทก์แพ้คดีแก่จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 คำสั่งของศาลที่ให้ยึดทรัพย์ของจำเลยทั้งห้าไว้ชั่วคราวตลอดจนคำสั่งศาลที่ให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธคจึงเป็นอันยกเลิกไปด้วย ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 จึงไม่ต้องนำเงินค่าตอบแทนมาวางศาลอีกต่อไป ส่วนค่าตอบแทนที่ได้วางศาลไว้แล้ว200,000 บาท นั้น ขอให้สั่งคืนแก่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ด้วย
ผู้ร้องที่ 3 ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องที่ 3 ได้ทำสัญญาจะซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ 43399 และ 43400 อันเป็นสถานที่ตั้งดิสโก้เธคที่ศาลสั่งให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เข้าดำเนินการจากนายจตุพรสีหนาทกถากุล เจ้าของกรรมสิทธิ์ซึ่งตามสัญญาจะซื้อขายผู้ร้องที่ 3 มีสิทธิครอบครองใช้สอยที่ดินดังกล่าว และเป็นเจ้าของอาคารที่ปลูกสร้างบนที่ดินดังกล่าวด้วย เมื่อศาลสั่งให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เข้าดำเนินกิจการสถานดิสโก้เธค ในอาคารและที่ดินที่ผู้ร้องที่ 3 มีสิทธิครอบครองเช่นนี้ ผู้ร้องที่ 3ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับค่าตอบแทนที่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 นำมาวางไว้ต่อศาล ขอให้ศาลสั่งให้เพิกถอนคำสั่งที่ให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธค และให้ผู้ร้องที่ 2 รับเงินค่าตอบแทนที่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 นำมาวางไว้ต่อศาลแล้วและค่าตอบแทนที่จะวางในเดือนต่อ ๆ ไปจนกว่าผู้ร้องที่ 1 ที่ 2จะได้ออกไปจากอาคารและที่ดินดังกล่าว
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องของผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ว่า ผู้ร้องที่ 1ที่ 2 ได้เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธค ตั้งแต่วันที่8 เมษายน 2529 ตลอดมา แต่วางเงินค่าตอบแทนต่อศาลไว้เพียง200,000 บาท ถือว่าได้วางเงินค่าตอบแทนสำหรับเดือนเมษายน 2529แต่ศาลได้พิพากษาคดีนี้เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2529 โดยมิได้กำหนดวิธีการชั่วคราวไว้ในคำพิพากษาถือว่าวิธีการชั่วคราวดังกล่าวเป็นอันยกเลิก ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 มีความรับผิดจะต้องนำเงินมาวางตามคำสั่งศาลจนถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2529 แต่ผู้ร้องที่ 1ที่ 2 นำเงินมาวางเพียงเดือนเดียวคือเดือนเมษายน 2529ส่วนเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน 2529 มิได้นำมาวาง จึงให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 นำเงินประจำเดือนดังกล่าวเดือนละ 200,000 บาทมาวางต่อศาลภายใน 1 เดือน นับแต่วันมีคำสั่ง และศาลชั้นต้นสั่งคำร้องของผู้ร้องที่ 3 ว่า ที่ผู้ร้องที่ 3 ขอรับเงินค่าตอบแทนที่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 นำมาวางไว้ต่อศาลนั้น เห็นว่าผู้ร้องที่ 3ไม่มีสิทธิที่จะรับไป ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 วางเงินค่าเช่า (ที่ถูกเป็นค่าตอบแทน)400,000 บาท กับให้คืนหลักทรัพย์ประกันแก่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2และให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของผู้ร้องที่ 3ให้ทำการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องที่ 3 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดีนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ผู้ร้องที่ 3 มีสิทธิจะขอรับเงินค่าตอบแทนที่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2นำมาวางไว้ต่อศาลหรือไม่ ข้อเท็จจริงปรากฏตามท้องสำนวนว่าสถานดิสโก้เธค ที่ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เข้าดำเนินกิจการนี้ จำเลยทั้งห้าได้ให้ผู้ร้องที่ 1 เป็นผู้ดำเนินกิจการอยู่ก่อนแล้ว ต่อมาเมื่อศาลสั่งยึดทรัพย์สินต่าง ๆ คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจสถานดิสโก้เธคแห่งนี้ไว้ชั่วคราวคู่ความเห็นว่า น่าจะเกิดความเสียหายแก่คู่ความทั้งสองฝ่ายเพราะอุปกรณ์ที่ถูกยึดไว้ดังกล่าวมีราคาสูงมาก การขนไปเก็บไว้จะเสียหายได้ง่าย ทั้งยังจะได้ผลประโยชน์ที่ได้จากการดำเนินการมาวางศาลไว้เพื่อประโยชน์ของคู่ความ ต่างฝ่ายต่างจึงเสนอขอให้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวเปิดดำเนินกิจการสถานดิสโก้เธคต่อไปในที่สุดศาลจึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เป็นผู้เข้าดำเนินกิจการโดยให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เสียค่าตอบแทนเดือนละ 200,000 บาทจากข้อเท็จจริงดังกล่าว เห็นได้ว่าเงินค่าตอบแทนเดือนละ200,000 บาท ที่ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ต้องนำมาวางศาลนั้นเป็นการมุ่งที่จะให้เป็นค่าตอบแทนในการที่ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2เข้าดำเนินธุรกิจสถานดิสโก้เธคต่อไปเหมือนเดิมก่อนที่อุปกรณ์ที่ใช้ในสถานดิสโก้เธคจะถูกยึด ซึ่งสาระสำคัญของการดำเนินธุรกิจประเภทนี้ย่อมต้องอาศัยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ภายในสถานที่นั้นเป็นหลัก และอุปกรณ์ดังกล่าวก็คือทรัพย์สินต่าง ๆของจำเลยทั้งห้าที่ถูกศาลสั่งยึดไว้ชั่วคราวนั่นเอง ฉะนั้นค่าตอบแทนเดือนละ 200,000 บาทนี้ จึงเป็นค่าตอบแทนในการที่ได้ใช้ทรัพย์สินที่ถูกยึดไว้ในคดีนี้เป็นสำคัญ หาได้มุ่งถึงค่าตอบแทนในการใช้อาคารและที่ดินด้วยไม่ เพราะขณะที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เข้าดำเนินกิจการนั้น ได้ความว่าที่ดินและอาคารดังกล่าว จำเลยที่ 4 มีสิทธิครอบครองใช้สอยอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นศาลจึงมีอำนาจที่จะให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2เข้าไปดำเนินธุรกิจสถานดิสโก้เธคโดยใช้อุปกรณ์ที่ถูกยึดไว้ได้การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธคจึงหาใช่เป็นการเอาอาคารและที่ดินซึ่งมิใช่ทรัพย์ที่ถูกยึดออกให้เช่าดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ ฉะนั้นไม่ว่าผู้ร้องที่ 3 จะเป็นผู้จะซื้อที่ดินที่ตั้งสถานดิสโก้เธคนี้จริงหรือไม่ก็ตาม ผู้ร้องที่ 3 ก็ไม่มีสิทธิที่จะขอรับเงินค่าตอบแทนนี้ไปจากศาลได้
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ที่ 2ที่ 3 และที่ 4 ว่า ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ต้องชำระค่าตอบแทนประจำเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน 2529 หรือไม่ ได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 เข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธคเป็นคำสั่งที่ชอบ ดังนั้นผู้ร้องที่ 1 ที่ 2จึงยังคงมีความผูกพันต้องชำระค่าตอบแทนในการเข้าดำเนินกิจการในสถานดิสโก้เธคจนถึงเดือนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องที่ 1 ที่ 2 ยังค้างชำระค่าตอบแทนเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน 2529 ศาลชั้นต้นจึงมีอำนาจสั่งให้ผู้ร้องที่ 1 ที่ 2นำเงินค่าตอบแทนดังกล่าวจำนวน 400,000 บาท มาวางศาลได้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น