คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5584/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซื้อห้องชุดพิพาทจากจำเลยและได้รับโอนการครอบครองไปเรียบร้อยแล้ว แต่โจทก์ยังไม่ได้เข้าอยู่อาศัย ต่อมาประมาณกลางปี 2538 โจทก์ประสงค์จะเข้าอยู่อาศัย จึงได้ให้ช่างเข้าไปตกแต่ง ในระหว่างนั้นเกิดมีฝนตกหนัก น้ำฝนรั่วซึมเข้าไปในห้องชุดพิพาท ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ความเสียหายเกิดจากผนังบางส่วนมีรอยแตกร้าว และบริเวณระหว่างกำแพงที่เป็นปูนหรือส่วนที่เป็นพื้นกับวงกบอะลูมิเนียมของบานประตูหน้าต่างมีรอยต่อไม่สนิทหรือบางส่วนยาซิลิโคนไม่ทั่ว ทำให้น้ำฝนสามารถซึมเข้ามาตามห้องชุดตามรอยร้าวหรือรอยต่อที่ไม่สนิทเป็นความชำรุดบกพร่องอันไม่เห็นประจักษ์ในเวลาส่งมอบ ต่อเมื่อมีฝนตกหนัก น้ำฝนซึมเข้ามาจึงจะรู้ว่ามีการชำรุดบกพร่อง แม้โจทก์จะได้มอบหมายให้ตัวแทนโจทก์เข้าไปสำรวจตรวจสอบ ก็เป็นการตรวจสอบเพียงว่ามีทรัพย์สินใดเสียหายบ้าง แต่บุคคลทั้งสองไม่มีความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้าง การที่ตัวแทนโจทก์เสนอให้โจทก์ติดต่อหาผู้เชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบและโจทก์ได้ว่าจ้างให้ผู้ซึ่งมีความรู้เชี่ยวชาญเข้าไปทำการตรวจสอบให้แน่ชัด จึงเป็นการกระทำที่สมควร เมื่อผู้เชียวชาญได้ตรวจสอบเสร็จและเสนอรายการซ่อมให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2538 จึงถือได้ว่าโจทก์พบเห็นความชำรุดบกพร่องของห้องชุดพิพาทนับแต่เวลานั้น โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2539 ยังไม่พ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่วันดังกล่าว คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ
ค่าจ้างตรวจสอบสาเหตุแห่งความเสียหายรวมทั้งทรัพย์สินที่เสียหายและค่าซ่อมแซมเป็นผลโดยตรงจากความชำรุดบกพร่องของห้องชุดพิพาทที่จำเลยขายให้โจทก์และเป็นจำนวนที่สมควร จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
ป.วิ.พ. ได้กำหนดอัตราค่าทนายความไว้ในตาราง 6 โดยให้ศาลกำหนดค่าทนายความให้แก่ผู้ชนะคดีตามจำนวนที่ศาลเห็นสมควรระหว่างอัตราขั้นต่ำและอัตราขั้นสูง โดยให้พิจารณาตามความยากง่ายแห่งคดีกับเทียบดูเวลาและงานที่ทนายความต้องปฏิบัติในการว่าความเรื่องนั้น ไม่ประสงค์จะให้คู่ความกำหนดอัตราค่าทนายความกันเองแล้วมาเรียกจากอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งศาลจะกำหนดค่าทนายความไว้ตอนท้ายของคำพิพากษา มิใช่กำหนดตามที่ผู้ชนะคดีจ่ายไปจริง
ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าโจทก์จ่ายเงินค่าตรวจสอบไปเมื่อวันใด ส่วนค่าซ่อมแซมขณะฟ้องโจทก์ยังไม่ได้ซ่อม โจทก์จึงเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยนับจากวันตามขอไม่ได้ ศาลกำหนดให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีฐานะเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดโจทก์ซื้อและรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดเลขที่ ๒๑๗/๘๖ ชั้น ๒๐ – ๒๑ ชื่ออาคารชุดคริสตัลการ์เด้น จากจำเลยในราคา ๕,๙๙๖,๑๔๖ บาท ต่อมาประมาณกลางปี ๒๕๓๘ โจทก์ทำการตกแต่งภายในห้องชุด หลังจากนั้นประมาณกลางเดือนกันยายน ๒๕๓๘ มีน้ำฝนไหลซึมตามผนังบริเวณหน้าต่างและส่วนอื่น ๆ ของห้องชุดได้รับความเสียหายโจทก์ว่าจ้างบริษัทอาคเนย์การช่าง จำกัด สำรวจและประเมินค่าเสียหาย แล้วรายงานว่าความเสียหายเกิดจากผนังบางส่วนมีรอยร้าวและบริเวณระหว่างกำแพงที่เป็นปูนหรือพื้นกับวงกบอลูมิเนียมของบานประตูหน้าต่างมีรอยต่อไม่สนิทหรือบางส่วนยาซิลิโคนไม่ทั่ว ค่าเสียหายเป็นเงิน ๒๑๑,๐๐๐ บาท โจทก์ทวงถามให้จำเลยใช้ค่าเสียหายหลายครั้ง แต่จำเลยเพิกเฉย โจทก์ขอคิดค่าเสียหาย ค่าจ้างสำรวจความเสียหายและค่าทนายความ รวมเป็นเงิน ๒๕๖,๐๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยใช้เงินจำนวน ๒๕๖,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละสิบห้าต่อปี นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยโอนกรรมสิทธิ์และส่งมอบห้องชุดให้แก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยและไม่ชำรุดบกพร่อง ความเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเกิดขึ้นภายหลังจากโจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์จากจำเลยนานเกือบ ๓ ปี ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องเป็นเพียงการคาดคะเนและไกลเกินเหตุ โจทก์มิได้ใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเนื่องมาจากความชำรุดบกพร่องในห้องชุดภายใน ๑ ปี นับแต่วันที่โจทก์รับโอนกรรมสิทธิ์และเป็นวันที่โจทก์ควรพบเห็นความชำรุดบกพร่อง ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้โต้แย้งกันฟังได้ยุติว่าเมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๓๕ โจทก์ซื้อห้องชุดพิพาทจากจำเลยและได้รับโอนการครอบครองไปเรียบร้อยแล้ว แต่โจทก์ยังไม่ได้เข้าอยู่อาศัย ต่อมาประมาณกลางปี ๒๕๓๘ โจทก์ประสงค์จะเข้าอยู่อาศัย จึงได้ให้ช่างเข้าไปตกแต่ง ขณะกำลังตกแต่งอยู่นั้นถึงต้นเดือนกันยายน ๒๕๓๘ เกิดมีฝนตกหนัก น้ำฝนรั่วซึมเข้าไปในห้องชุดพิพาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๓๙ มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ในข้อแรกว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้นเวลาปีหนึ่ง นับแต่เวลาที่พบเห็นความชำรุดบกพร่องจึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๗๔หรือไม่ โจทก์มีนายสุริยน สัจจาวณิชย์ ผู้ดูแลผลประโยชน์ของโจทก์นายฉัตรบดี จารุสกุล ทนายความโจทก์ซึ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบความเสียหาย และนายสิทธิชัย จิรประเสริฐกุล เบิกความเป็นพยานว่าเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นโจทก์ได้มอบหมายให้นายสุริยนไปทำการตรวจสอบพร้อมกับนายฉัตรบดีเมื่อประมาณเดือนกันยายน ๒๕๓๘ พบว่าพื้นห้องและขอบผนังห้องมีรอยด่างซึ่งเกิดจากน้ำรั่วซึม วอลล์เปเปอร์ฉีกขาดหลุดออก พื้นไม้ปาเก้โป่งนูนขึ้นมา ผนังห้องมีรอยแตก พรมปูพื้นผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์และเครื่องปรับอากาศชำรุดเสียหาย ตามภาพถ่ายหมาย จ.๓ จึงได้แนะนำโจทก์ให้ติดต่อหาผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบว่าความเสียหายเกิดจากอะไร บริษัทอาคเนย์การช่าง จำกัด ตรวจสอบ พบว่าความเสียหายเกิดจากผนังบางส่วนมีรอยแตกร้าว และบริเวณระหว่างกำแพงที่เป็นปูนหรือส่วนที่เป็นพื้นกับวงกบอลูมีเนียมของบานประตูหน้าต่างมีรอยต่อไม่สนิทหรือบางส่วนยาซิลิโคนไม่ทั่ว ทำให้น้ำฝนสามารถซึ่มเข้ามาตามห้องชุดตามรอยร้าวหรือรอยต่อที่ไม่สนิทนั้น จึงเกิดความเสียหายดังกล่าวข้างต้นตามรายงานการสำรวจตรวจสอบเอกสารหมาย จ.๕ และได้เสนอราคาค่าซ่อมเป็นเงิน ๒๑๑,๐๐๐ บาท ตามเอกสารหมาย จ.๔ ฝ่ายจำเลยไม่ได้โต้แย้งว่าข้อนำสืบดังกล่าวไม่เป็นความจริงและรับว่าห้องชุดที่ขายให้แก่โจทก์เป็นห้องโล่ง ยังไม่มีการตกแต่งภายใน ปกติจำเลยจะรับผิดชอบห้องชุดต่อผู้ซื้อภายในกำหนดเวลา ๑ ปี เท่านั้น เห็นว่า ความชำรุดบกพร่องอันเกิดจากการที่ผนังบางส่วนมีรอยแตกร้าวบริเวณระหว่างกำแพงที่เป็นปูนหรือส่วนที่เป็นพื้นกับวงกบอลูมิเนียมของบานประตูหน้าต่างมีรอยต่อไม่สนิทหรือบางส่วนยาซิลิโคนไม่ทั่ว ทำให้น้ำฝนสามารถซึมเข้ามาได้นั้นเป็นความชำรุดบกพร่องอันไม่เห็นประจักษ์ในเวลาส่งมอบ เมื่อมีน้ำฝนตกหนัก น้ำฝนซึมเข้ามาจึงจะรู้ว่ามีการชำรุดบกพร่องดังกล่าว แม้โจทก์จะได้มอบหมายให้นายสุริยนและนายฉัตรบดีซึ่งถือได้ว่าเป็นตัวแทนโจทก์เข้าไปสำรวจตรวจสอบเมื่อประมาณเดือนกันยายน ๒๕๓๘ ก็เป็นการตรวจสอบเพียงว่ามีทรัพย์สินใดเสียหายบ้าง แต่บุคคลทั้งสองไม่มีความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างทั้งในระหว่างนั้นโจทก์ได้ว่าจ้างให้บุคคลอื่นเข้ามาทำการตกแต่งภายในอยู่ด้วยจึงอาจมีการตอกตะปูใช้สว่านเจาะหรืออื่นใด อันเป็นปกติธรรมดาของการตกแต่ง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดรอยแตกร้าวได้ การที่บุคคลทั้งสองเสนอให้โจทก์ติดต่อหาผู้เชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบและโจทก์ได้ว่าจ้างให้บริษัทอาคเนย์การช่าง จำกัด ซึ่งมีความรู้เชี่ยวชาญเข้าไปทำการตรวจสอบให้แน่ชัด จึงเป็นการกระทำที่สมควร จะถือว่าโจทก์พบเห็นความชำรุดบกพร่องแล้วแต่เวลานั้นยังไม่ได้ เมื่อต่อมาบริษัทอาคเนย์การช่าง จำกัด ได้ตรวจสอบเสร็จและเสนอรายการซ่อมให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๓๘ ตามเอกสารหมาย จ.๔ จึงถือได้ว่าโจทก์พบเห็นความชำรุดบกพร่องของห้องชุดพิพาทนับแต่เวลานั้น โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๓๙ ยังไม่พ้นเวลาปีหนึ่งนับแต่วันดังกล่าว คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
มีปัญหาต่อไปตามฎีกาโจทก์ว่า ค่าเสียหายมีเพียงใด โจทก์นำสืบว่าโจทก์ได้ว่าจ้างบริษัทอาคเนย์การช่าง จำกัด ตรวจสอบความเสียหายเป็นเงิน ๕,๐๐๐ บาท บาท ค่าจ้างทนายความ ๓๐,๐๐๐ บาท และค่าซ่อมแซมอาคารและทรัพย์สินที่เสียหายเป็นเงิน ๒๑๑,๐๐๐ บาท ตามใบเสนอราคาเอกสารหมาย จ.๔ ฝ่ายจำเลยมิได้นำสืบแก้ว่าไม่เป็นความจริงอย่างไร เห็นว่า ค่าจ้างตรวจสอบสาเหตุแห่งความเสียหายรวมทั้งทรัพย์สินที่เสียหายเป็นเงิน ๕,๐๐๐ บาท และค่าซ่อมแซมเป็นเงิน ๒๑๑,๐๐๐ บาท นั้น เป็นผลโดยตรงจากความชำรุดบกพร่องของห้องชุดพิพาท และเป็นจำนวนที่สมควร จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ ส่วนค่าจ้างทนายความ ๓๐,๐๐๐ บาท นั้น แม้จะฟังว่าเป็นความจริงก็ตาม แต่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้กำหนดอัตราค่าทนายความไว้ในตาราง ๖ โดยให้ศาลกำหนดค่าทนายความให้แก่ผู้ชนะคดีตามจำนวนที่ศาลเห็นสมควรระหว่างอัตราขั้นต่ำและอัตราขั้นสูง โดยให้พิจารณาตามความยากง่ายแห่งคดีกับเทียบดูเวลาและงานที่ทนายความต้องปฏิบัติในการว่าความเรื่องนั้นไม่ประสงค์จะให้คู่ความกำหนดอัตราค่าทนายกันเองแล้วเรียกจากอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งในคดีนี้ศาลก็จะได้กำหนดอัตราค่าทนายความตามบทบัญญัติดังกล่าวไว้ตอนท้ายของคำพิพากษาอยู่แล้วจึงไม่กำหนดให้โจทก์ อนึ่ง ที่โจทก์ขอให้จำเลยชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละสิบห้าต่อปีของค่าเสียหายดังกล่าวนับแต่วันถัดจากวันฟ้องนั้น ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าโจทก์จ่ายเงินค่าตรวจสอบไปเมื่อวันใด ส่วนค่าซ่อมแซมนั้น ขณะฟ้องโจทก์ยังไม่ได้ซ่อมโจทก์จึงเรียกดอกเบี้ยจากจำเลยนับจากวันตามขอไม่ได้ เห็นควรกำหนดให้นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา
พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นค่าจ้างตรวจสอบจำนวน ๕,๐๐๐ บาท และค่าซ่อมแซมอาคารพิพาทจำนวน ๒๑๑,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๒๑๖,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมททั้งสามศาลโดยกำหนดค่าทนายความรวม ๑๕,๐๐๐ บาท แทนโจทก์ด้วย

นายนวรัตน์ กลิ่นรัตน์ ผู้ช่วยฯ
นายเอกศักดิ์ ยันตรปกรณ์ ย่อ
นายไพโรจน์ โรจน์อภิรักษ์กุล ตรวจ
นางอัปษร หิรัญบูรณะ ผู้ช่วยฯ/ตรวจ

Share