คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 655/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ผู้ขายจะได้รถยนต์มาโดยการโอนต่อนายทะเบียนและการขายให้ผู้ซื้อก็ได้โอนต่อนายทะเบียนก็ดีก็ไม่ตัดสิทธิเจ้าของอันแท้จริงที่จะติดตามเอาคืน การที่เจ้าของอันแท้จริงติดตามเอารถคืนจากผู้ซื้อเช่นนี้ เป็นการรอนสิทธิของผู้ซื้อ การที่ผู้ซื้อยินยอมคืนรถให้แก่เจ้าของอันแท้จริงเอง แต่เมื่อความปรากฏชัดแจ้งแล้วว่ารถคันนั้นเป็นของเจ้าของ การที่ผู้ซื้อคืนรถให้แก่เจ้าของที่แท้จริงจึงเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง ถึงการซื้อขายรถยนต์จะได้ทำการโอนซื้อขายกันทางทะเบียน ผู้ขายก็ยังคงมีความรับผิดเพราะเหตุการรอนสิทธิอยู่ เมื่อผู้ซื้อมิได้รู้ในขณะซื้อขายว่ามีเหตุรอนสิทธิเกิดขึ้น ผู้ขายก็ต้องรับผิดตามกฎหมาย
แม้การซื้อขายรถยนต์จะได้กระทำในกองทะเบียนกรมตำรวจ โดยมีการตรวจสอบกระทำโดยสุจริตและเปิดเผยก็ตาม ก็ไม่ใช่เป็นการซื้อขายในท้องตลาด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขายรถยนต์ให้โจทก์และรับเงินไปจากโจทก์แล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มายึดรถยนต์ไปโดยอ้างว่าเป็นของผู้มีชื่อ ผลของการตรวจพิสูจน์แล้วปรากฏว่ารถคันนี้เป็นของนายไมตรีโจทก์จึงต้องคืนรถให้แก่เจ้าของอันแท้จริงไป จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ราคารถ และค่าเสียหายแก่โจทก์ โจทก์ทวงถามแต่จำเลยก็เพิกเฉยจึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยสู้ว่า การซื้อขายรถยนต์ได้กระทำ ณ กองทะเบียนกรมตำรวจซึ่งได้ตรวจสอบถูกต้องแล้ว เป็นการกระทำโดยสุจริต เปิดเผย และเป็นการโอนขายกันในท้องตลาดทั้งจำเลยก็ได้ซื้อรถยนต์คันนี้มาจากผู้มีชื่อในทะเบียนโดยถูกต้อง และทำการโอนซื้อขายกันที่กองทะเบียนเช่นเดียวกัน จำเลยไม่รับรองว่ารถคันที่โจทก์ซื้อไปเป็นของนายไมตรีตำรวจมิได้คืนรถให้นายไมตรี แต่โจทก์คืนให้เองโดยมิได้แจ้งให้จำเลยทราบเพื่อโต้แย้ง การกระทำของโจทก์ไม่สุจริตและเป็นความผิดของโจทก์เอง จำเลยไม่ต้องรับผิด

จำเลยขอให้เรียกนายกุ่ย เหมือนสวัสดิ์ เข้ามาเป็นจำเลยร่วมศาลอนุญาตแต่นายกุ่ยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า รถพิพาทเป็นรถของนายไมตรีแม้การโอนขายจะทำถูกต้องตามระเบียบและวิธีการจดทะเบียน แต่เมื่อมีบุคคลภายนอกมาก่อการรบกวนขัดสิทธิโจทก์ จำเลยต้องรับผิดในผลนั้น ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชำระค่ารถยนต์คืนแก่โจทก์คำขออย่างอื่นให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า รถพิพาทเป็นรถของนายไมตรีจริง แม้จำเลยจะได้รถมาโดยการโอนต่อนายทะเบียน และการขายให้โจทก์ก็ได้โอนต่อนายทะเบียนก็ดีก็ไม่ตัดสิทธิเจ้าของอันแท้จริงที่จะติดตามเอาคืน แม้เรื่องนี้จะได้ความว่าโจทก์ยินยอมให้เจ้าพนักงานคืนรถให้นายไมตรี การที่โจทก์คืนรถให้แก่เจ้าของที่แท้จริงจึงเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องแล้ว ที่จำเลยคัดค้านว่าโจทก์ไม่จำต้องคืนเพราะโจทก์ได้รถมาจากการซื้อขายในท้องตลาด เห็นว่า การซื้อขายในเรื่องนี้ไม่ใช่การซื้อขายในท้องตลาดและเห็นว่า แม้โจทก์จำเลยเรื่องนี้จะได้ทำการโอนซื้อขายรถยนต์กันทางทะเบียนก็ดีผู้ขายก็ยังคงมีความรับผิดเพราะเหตุการรอนสิทธิอยู่ ทั้งเรื่องนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ผู้ซื้อหาได้รู้ในขณะซื้อขายไม่ว่าจะมีเหตุรอนสิทธิเกิดขึ้น จำเลยในฐานะผู้ขายจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามกฎหมาย

พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share