คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5575/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ที่จะขอให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาพิพากษากลับหรือแก้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ริบทรัพย์ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามคำขอของโจทก์ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 30,31 ได้คือผู้คัดค้านคำขอซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นเท่านั้น เมื่อบุคคลดังกล่าวมิได้ยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาจำเลยซึ่งมิได้ร้องคัดค้านคำขอของโจทก์จึงไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์และฎีกาเกี่ยวกับเรื่องนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีเฮโรอีนจำนวน 10 แท่ง น้ำหนัก 3,448 กรัมคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 2,834 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายและจำเลยได้พยายามนำเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวออกนอกราชอาณาจักร โดยซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทางแล้วนำติดตัวออกนอกราชอาณาจักร โดยสายการบินเชคโกสโลวาคแอร์ไลน์เพื่อเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตสื จำเลยลงมือกระทำความผิดแล้ว แต่กระทำไปไม่ตลอดเพราะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบและจับกุมได้เสียก่อนที่บริเวณห้องผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานกรุงเทพอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ตามวันเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่จับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนที่จำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายและพยายามส่งออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายและยึดได้กระเป๋าเดินทาง 1 ใบที่ใช้ซุกซ่อนเฮโรอีนไว้กับตั๋วโดยสารเครื่องบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหนังสือเดินทางประเทศเซียราเลโอน 1 เล่ม บัตรที่นั่งบนเครื่องบิน1 ฉบับ บัตรตรวจคนเข้าเมืองขาออก 1 ฉบับ เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 3, 7 ริบเฮโรอีนและกระเป๋าเดินทางของกลาง ส่วนตั๋วโดยสารเครื่องบินของกลางให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดซึ่งโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งริบให้ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 30, 31 แล้วของกลางอื่นคืนแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
นายอีริค เอเจอัตโต สามีจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านการขอริบทรัพย์สินตั๋วโดยสารเครื่องบินสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ของกลางอ้างว่าเป็นของผู้ร้อง ขอให้คืนแก่ผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 15 วรรคสอง, 66 วรรคสอง บทหนึ่ง และผิดฐานพยายามส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคสอง, 65 วรรคสอง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2522 (ที่ถูก พ.ศ. 2534) มาตรา 3, 7, ซึ่งมีระวางโทษเช่นเดียวกับผู้ที่กระทำความผิดสำเร็จอีกบทหนึ่ง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานพยานยามส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 ให้ประหารชีวิต คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52(1)คงจำคุกตลอดชีวิต ริบเฮโรอีนและกระเป๋าเดินทางของกลาง สำหรับตั๋วโดยสารเครื่องบินของสายการบินเอธิโอเบียน แอร์ไลน์ให้ริบตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของกลางอื่นคืนแก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่าตามวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าหน้าที่ศุลกากรฝ่ายปราบปรามยาเสพติดประจำด่านท่าอากาศยานกรุงเทพ สังเกตเห็นกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งในจำนวน 2 ใบ ที่อยู่ในความครอบครองของจำเลยมีพิรุธ จึงทำการตรวจค้นพบเฮโรอีนซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าใบนั้นจำนวน 10 แท่ง มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์หนัก 2,834 กรัม
สำหรับฎีกาของจำเลยที่ขอให้คืนตั๋วโดยสารเครื่องบินของสายการบินเฮธิโอเปียน แอร์ไลน์ เลขที่ 1 071 4401892961 1จำนวน 1 ฉบับ ของกลางแก่เจ้าของนั้น เห็นว่า กรณีเกี่ยวกับตั๋วโดยสารเครื่องบินของกลางนี้ นายอีริค เอเจอัตโต สามีของจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านคำร้องของโจทก์ที่ขอให้ริบตั๋วโดยสารเครื่องบินดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 30 โดยอ้างเหตุว่าเป็นผู้ออกเงินซื้อให้จำเลย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำผิดด้วย เมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนและมีคำสั่งริบตั๋วโดยสารเครื่องบินของกลางให้ตกเป็นกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 30 และ 31 แล้ว ในกรณีดังกล่าวนี้มาตรา 30 วรรคสาม ระบุห้ามมิให้นำมาตรา 36 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับ ฉะนั้น ผู้ที่จะขอให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาพิพากษากลับ หรือแก้คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ริบทรัพย์ดังกล่าว ก็คือผู้คัดค้านคำขอของโจทก์ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินเท่านั้น คดีนี้นายอีริค เอเจอัตโต ผู้คัดค้านมิได้ยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาแต่อย่างใดแต่ผู้ที่อุทธรณ์และฎีกาเป็นจำเลยซึ่งมิได้ร้องคัดค้านการขอให้ริบทรัพย์ของโจทก์ จึงไม่มีสิทธิยื่นอุทธรณ์และฎีกาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้นั้น ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณาและศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในส่วนนี้”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฎีกาของจำเลยในส่วนที่เกี่ยวกับคำสั่งริบตั๋วโดยสารเครื่องบินของกลางนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share