คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยโดยบรรยายมาในคำฟ้องครบถ้วนเข้าเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษได้แล้ว เมื่อจำเลยรับว่าเคยต้องโทษและพ้นมาจริงตามฟ้อง โจทก์ไม่จำต้องสืบพยานอีก ศาลก็พิพากษาเพิ่มโทษจำเลยตามคำรับนั้นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกเคหสถานและพยายามชิงทรัพย์และก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลมณฑลทหารบกที่ 5 (ศาลจังหวัดภูเก็ต) ให้จำคุก 2 ปี ฐานชิงทรัพย์ตามคดีแดงที่ 18/2506 ภายใน 5 ปีนับแต่วันพ้นโทษ จำเลยกระทำผิดในคดีนี้อีกขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 364, 365, 339, 80, 92

จำเลยให้การปฏิเสธ รับในข้อเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 ประกอบด้วยมาตรา 364 จำคุก 3 เดือน โจทก์มิได้นำสืบว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดมาแล้วตามที่กล่าวในฟ้อง จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ ให้ยกเสีย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา ขอให้เพิ่มโทษจำเลยด้วย

ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ขอให้เพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 92 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลมณฑลทหารบกที่ 5 (ศาลจังหวัดภูเก็ต) ให้ลงโทษจำคุก 2 ปีฐานชิงทรัพย์ ตามคดีแดงที่ 18/2506 ภายใน 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษจำเลยกระทำผิดคดีนี้อีก ศาลสอบจำเลยเรื่องต้องโทษและพ้นโทษจำเลยแถลงรับว่าเป็นความจริงตามฟ้อง ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 24 กันยายน 2512 ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษจริงตามฟ้อง โจทก์ก็ไม่จำต้องสืบพยานอีก ศาลพิพากษาเพิ่มโทษจำเลยตามคำรับนั้นได้ จึงต้องเพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่เพิ่มโทษ จำเลยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น

จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้เพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 รวมเป็นโทษจำคุก 4 เดือน นอกจากที่แก้นี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share