แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สามีภรรยาเกิดทะเลาะโต้เถียงกัน ภรรยาขอหนังสือหย่า สามี+เขียนให้ แล้วก็ไม่ได้ติดต่อเกี่ยวข้องกันอย่างสามีภรรยา+เลยตลอดเวลา 10 ปีเศษในระหว่างนี้สามีได้รับมรดกภรรยาจะฟ้องแบ่งทรัพย์นั้นไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าได้สมรสเป็นภรรยาจำเลยมา ๓๘ ปีเศษ ครั้นจำเลยได้ภรรยาใหม่มีเรื่องระหองระแหงกัน จำเลยไล่ไม่ให้โจทก์อยู่ร่วมด้วย โจทก์ต้องไปอยู่จังหวัดพระนครมารดาจำเลยตาย จำเลยรับทรัพย์มรดกซึ่งเป็นสมราระหว่างโจทก์ จำเลยจึงขอแบ่งจำเลยให้การว่าได้หย่าขาดจากโจทก์มา ๑๐ ปีกว่าแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิในทรัพย์ซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์จำเลยขาดจากสามีภรรยากันแล้ว โดยจำเลยให้หนังสือหย่าแก่โจทก์และไม่ได้อยู่ร่วมกันมา ๑๐ ปีแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความชัดว่าโจทก์จำเลยได้เลิกร้างแยกกันอยู่มากกว่า ๑๐ ปีแล้ว เมื่อแยกกันจำเลยได้เขียนหนังสือหย่าให้โจทก์ ในกรณีที่ถูกฟ้องเรียกหนี้สินด้วยกัน โจทก์ก็เคยทำคำให้การยื่นว่าได้หย่าขาดจากจำเลยแล้ว ทั้งโจทก์ก็ได้ใช้ชื่อและนามสกุลเดิมของโจทก์ตลอดมา นับได้ว่าโจทก์จำเลยได้ขาดจากสามีภรรยากันแล้ว ส่วนข้อที่จำเลยให้เงินโจทก์ ก็ได้ความว่าเป็นด้วยความสงสารที่โจทก์ขัดสนโดยมีผู้ร้องขอหาใช่ให้ด้วยความผูกพันอย่างใดไม่ ที่โจทก์อ้างว่าสมุดประวัติของจำเลยคงปรากฏชื่อโจทก์เป็นภรรยาอยู่ ก็ได้ความว่าสมุดประวัตินี้ทำมาแต่ครั้งโจทก์จำเลยยังเป็นสามีภรรยากันอยู่มิใช่ทำส่งเมื่อภายหลังหย่ากันแล้ว จึงไม่เป็นเหตุลบล้างข้อเท็จจริงที่ได้ความได้ พิพากษายืน ให้ยกฎีกาโจทก์.