คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ควบคุมจัดการเดินรถแทนจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของรถแล้วจำเลยที่ 1 ขับรถชนโจทก์เสียหายขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหาย แต่ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 มีหน้าที่เก็บสตางค์ค่าโดยสารในรถยนตร์ของจำเลยไม่ใช่เป็นผู้ควบคุมจัดการเดินรถแทนจำเลยที่ 2 ดังฟ้อง จึงเป็นการสืบนอกประเด็น จะรับฟังมาวินิจฉัยให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดชอบตามฟ้องไม่ได้ ต้องยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 2 เสีย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำลยที่ ๑ เป็นผู้ควบคุมจัดการเดินรถสายชลบุรี – กรุงเทพฯ แทนจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นเจ้าของรถ วันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๔๙๑ จำเลยที่ ๑ ประมาทเลินเล่อได้ขับรถยนตร์ของจำเลยที่ ๒ ถอยหลังชนรถยนตร์ของโจทก์ซึ่งจอดอยู่เสียหาย โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยทั้ง ๒ ร่วมกันใช้ค่าสินไหมทดแทน
จำเลยที่ ๑ รับว่าประมาทจริง แต่เป็นเพียงลูกจ้างเก็บสตางค์ค่าโดยสารรถ ไม่ใช่ผู้ควบคุมจัดการเดินรถแทนจำเลยที่ ๒
จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นเพียงคนเก็บสตางค์ค่าโดยสารเท่านั้น จำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะค่าเสียหายที่ต้องรับผิดแก่โจทก์น้อยลงมา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ควบคุมจัดการเดินรถ ฯลฯ แทนจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นเจ้าของรถ แต่ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ มีหน้าที่เก็บค่าโดยสารรถยนตร์ของจำเลยที่ ๒ จำเลยที่ ๑ ไม่ใช่ผู้ควบคุมจัดการเดินรถแทนจำเลยที่ ๒ +ฟ้อง เมื่อโจทก์นำสืบไปอีกอย่างหนึ่งต่างกับที่กล่าวในฟ้องเช่นนี้จึงเป็นการสืบนอกประเด็น จะรับฟังมาวินิจฉัยให้จำเลยที่ ๒ ต้องรับผิดชอบตามฟ้องไม่ได้
จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๒

Share