แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
การใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดตามความใน ป.อ. มาตรา 340 ตรี ต้องเป็นการใช้ตามลักษณะการใช้งานของยานพาหนะที่เป็นเครื่องนำไป หรือเครื่องขับขี่ แต่การใช้รถจักรยานของกลางจอดล้มขวางถนนไว้ไม่ใช่เป็นการใช้รถจักรยานของกลางตามลักษณะการใช้งานของยานพาหนะซึ่งใช้เป็นเครื่องนำผู้ขับขี่เคลื่อนที่ไปจำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340 ตรี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 340, 340 ตรี ริบของกลางและให้จำเลยทั้งสองคืนเงิน 400 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ประกอบด้วยมาตรา 340 วรรคแรก และ 83 จำคุกคนละ 15 ปี ริบของกลาง และให้จำเลยทั้งสองคืนเงิน 400 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคแรก ให้จำคุกคนละ 10 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 โดยคู่ความไม่ฎีกาโต้แย้งว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุในฟ้อง จำเลยทั้งสองกับพวกใช้รถจักรยานของกลาง 2 คัน จอดล้มขวางถนนบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายขับรถจักรยานชนรถจักรยานของกลางจนต้องหยุดรถ แล้วจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันปล้นทรัพย์เงิน 400 บาท ของผู้เสียหายไป
ปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ด้วยหรือไม่ โดยโจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยทั้งสองใช้รถจักรยานของกลางมาจอดล้มขวางถนน จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายต้องหยุดรถ แล้วถูกจำเลยทั้งสองกับพวกปล้นทรัพย์ เป็นการใช้รถจักรยานของกลางเป็นยานพาหนะเพื่อกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี แล้ว เห็นว่า การใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรีต้องเป็นการใช้ตามลักษณะการใช้งานของยานพาหนะที่เป็นเครื่องนำไปหรือเครื่องขับขี่แต่การใช้รถจักรยานของกลางจอดล้มขวางถนนไว้ ไม่ใช่เป็นการใช้รถจักรยานของกลางตามลักษณะการใช้งานของยานพาหนะซึ่งใช้เป็นเครื่องนำผู้ขับขี่เคลื่อนที่ไป จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน