แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีที่เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้รับจำนองประสงค์จะฟ้องบังคับจำนองประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 728 บังคับให้เจ้าหนี้ต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังผู้จำนองซึ่งเป็นลูกหนี้ ในคำบอกกล่าวนั้นเจ้าหนี้จะต้องกำหนดเวลาให้ผู้จำนองชำระหนี้จำนอง และกำหนดเวลาดังกล่าวจะต้องเป็นกำหนดเวลาอันสมควรด้วย เพื่อให้โอกาสผู้จำนองชำระหนี้จำนอง ทำให้ไม่ต้องถูกฟ้องให้ศาลสั่งยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองไปขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ การบอกกล่าวจึงเป็นเงื่อนไขที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับจำนองจะต้องกระทำให้ถูกต้องก่อนจึงจะฟ้องบังคับจำนองได้ การบอกกล่าวดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาที่จะต้องมีผู้รับการแสดงเจตนา คือผู้จำนอง เมื่อผู้จำนองถึงแก่กรรมก่อนผู้รับจำนองมีหนังสือบอกกล่าว แม้จะมีผู้อื่นรับหนังสือนั้นไว้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 728
เมื่อผู้จำนองถึงแก่กรรม มรดกของผู้จำนองซึ่งรวมตลอดถึงสิทธิหน้าที่และความรับผิดของผู้จำนองย่อมตกทอดแก่ทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599,1600ถ้ามีผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนองแล้ว โจทก์ผู้รับจำนองประสงค์จะบังคับจำนองโจทก์ต้องมีจดหมายบอกกล่าวแก่ผู้รับโอนล่วงหน้าเดือนหนึ่งก่อน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 735ถ้ายังไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนอง แต่ผู้จำนองมีทายาทหรือผู้จัดการมรดก โจทก์ต้องบอกกล่าวแก่บุคคลดังกล่าวซึ่งเป็นเสมือนผู้รับโอนทรัพย์สินที่จำนอง การบอกกล่าวนี้ต้องทำเป็นจดหมายหรือหนังสือ และต้องบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือนโจทก์จึงจะฟ้องบังคับจำนองได้ โจทก์มิได้บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยซึ่งเป็นทายาทของผู้จำนองก่อนฟ้อง และการที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวบังคับจำนองตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับจำนอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินจำนวน1,028,850.43 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 25 ต่อปี ของต้นเงิน496,773.97 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นหากจำเลยทั้งสี่ไม่ชำระเงิน หรือชำระไม่ครบ ให้ยึดทรัพย์จำนองนำออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้โจทก์ ถ้าไม่พอชำระให้ยึดหรือบังคับคดีเอากับทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสี่และทรัพย์สินในกองมรดกของนางสุนาผู้ตายเพื่อนำเงินมาชำระหนี้โจทก์จนครบถ้วน
จำเลยทั้งสี่ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินจำนวน1,028,850.43 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 25 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 496,773.97 บาท นับถัดจากวันฟ้อง เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งนี้จำเลยที่ 3 และที่ 4 ไม่ต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดแก่ตน
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2535 จำเลยที่ 1 และที่ 2 ทำสัญญากู้เงินจากโจทก์จำนวน 500,000 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 19 ต่อปีและให้โจทก์ปรับอัตราดอกเบี้ยได้ ตกลงชำระดอกเบี้ยทุกเดือนกำหนดชำระเงินคืนเมื่อโจทก์ทวงถาม มีนางสุนา ไชยแก้วทำสัญญาค้ำประกันยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม และจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 44107 ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมืองเชียงรายจังหวัดเชียงราย พร้อมสิ่งปลูกสร้างต่อโจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้โดยมีข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองว่าหากบังคับจำนองเอาทรัพย์ที่จำนองออกขายทอดตลาดได้เงินไม่พอชำระหนี้ นางสุนายอมใช้เงินที่ขาดนั้นจนครบ หลังจากทำสัญญา จำเลยที่ 1 และที่ 2 ชำระเงินแก่โจทก์เพียง 2 ครั้ง โดยชำระครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2536จำนวน 20,000 บาท วันที่ 31 กรกฎาคม 2536 จำเลยที่ 1 และที่ 2ยังคงค้างชำระหนี้โจทก์เป็นต้นเงิน 496,773.97 บาท และดอกเบี้ย65,900.47 บาท โจทก์จึงมอบให้ทนายความมีหนังสือทวงถามไปยังจำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้ชำระหนี้และบอกกล่าวบังคับจำนองแก่นางสุนาเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2539 แต่จำเลยที่ 1 ที่ 2และนางสุนาไม่ชำระหนี้ ต่อมาวันที่ 23 กรกฎาคม 2540 โจทก์จึงทราบว่านางสุนาถึงแก่กรรมแล้วเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2539จำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายและทายาทมีสิทธิรับมรดกของนางสุนา โจทก์จึงฟ้องบังคับจำนองเอาแก่จำเลยที่ 3และที่ 4 ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองหลังจากนางสุนาถึงแก่กรรมแล้ว ถือว่าโจทก์ยังมิได้บอกกล่าวบังคับจำนองจึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับจำนอง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาข้อแรกว่า โจทก์บอกกล่าวบังคับจำนองไปยังนางสุนาลูกหนี้ผู้จำนองในขณะที่โจทก์ไม่ทราบว่านางสุนาถึงแก่กรรมแล้ว ปรากฏว่ามีผู้รับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองแทนผู้ตาย จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกกล่าวบังคับจำนองไปยังลูกหนี้ผู้จำนองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 728 แล้ว พิเคราะห์แล้ว มาตรา 728 บัญญัติว่า เมื่อจะบังคับจำนอง ผู้รับจำนองต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้ก่อนว่าให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควร ซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้น ถ้าและลูกหนี้ละเลยเสียไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว ผู้รับจำนองจะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสั่งให้ยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองและให้ขายทอดตลาดก็ได้ เห็นว่าในกรณีที่เจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้รับจำนองประสงค์จะฟ้องบังคับจำนองกฎหมายบังคับให้เจ้าหนี้ต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังผู้จำนองซึ่งเป็นลูกหนี้ ในคำบอกกล่าวนั้นเจ้าหนี้จะต้องกำหนดเวลาให้ผู้จำนองชำระหนี้จำนอง และกำหนดเวลาดังกล่าวจะต้องเป็นกำหนดเวลาอันสมควรด้วย ทั้งนี้เพื่อให้โอกาสผู้จำนองชำระหนี้จำนองทำให้ไม่ต้องถูกฟ้องให้ศาลสั่งยึดทรัพย์สินซึ่งจำนองไปขายทอดตลาดเอาเงินมาชำระหนี้ การบอกกล่าวจึงเป็นเงื่อนไขที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับจำนองจะต้องกระทำให้ถูกต้องก่อน จึงจะฟ้องบังคับจำนองได้ การบอกกล่าวดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาที่จะต้องมีผู้รับการแสดงเจตนา ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าคือผู้จำนองเมื่อนางสุนาผู้จำนองถึงแก่กรรมก่อนโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวแม้จะมีผู้อื่นรับหนังสือนั้นไว้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์อุทธรณ์ข้อหลังว่า ในกรณีที่ลูกหนี้ผู้จำนองถึงแก่กรรมโจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับจำนองได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวบังคับจำนองหรือถ้าจะต้องบอกกล่าวบังคับจำนอง การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ก็ถือว่าเป็นการบอกกล่าวบังคับจำนองแล้ว เห็นว่า เมื่อนางสุนาผู้จำนองถึงแก่กรรม มรดกของนางสุนาซึ่งรวมตลอดถึงสิทธิหน้าที่และความรับผิดของนางสุนาย่อมตกทอดแก่ทายาทของนางสุนาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599, 1600ถ้ามีผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนองแล้ว โจทก์ประสงค์จะบังคับจำนองโจทก์ต้องมีจดหมายบอกกล่าวแก่ผู้รับโอนล่วงหน้า 1 เดือนก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 735 ถ้ายังไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งจำนอง แต่นางสุนาผู้จำนองมีทายาทหรือผู้จัดการมรดก โจทก์ต้องบอกกล่าวแก่บุคคลดังกล่าวซึ่งเป็นเสมือนผู้รับโอนทรัพย์สินที่จำนอง การบอกกล่าวนี้กฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นจดหมายหรือหนังสือ และต้องบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน โจทก์จึงจะฟ้องบังคับจำนองได้ โจทก์มิได้บอกกล่าวบังคับจำนองแก่จำเลยที่ 3 และที่ 4 ซึ่งเป็นทายาทของผู้จำนองก่อนฟ้องและการที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นคดีนี้ ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวบังคับจำนองตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องบังคับจำนอง
พิพากษายืน