คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การชั่งน้ำหนักคำพยานในคดีแพ่งนั้น หาใช่หมายถึงจะต้องชั่งน้ำหนักคำพยานอันเกิดจากการนำสืบของคู่ความทั้งสองฝ่ายเสมอไปไม่ถ้าปรากฏว่าฝ่ายใดมีภาระการพิสูจน์ก่อน แต่คำพยานไม่น่าเชื่อถือ นำสืบไม่สมข้ออ้าง แม้เป็นการนำสืบฝ่ายเดียวโดยคู่ความอีกฝ่ายไม่มีพยานมาสืบก็ต้องแพ้คดี

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดบ้าน1 หลัง อ้างว่าเป็นของจำเลย ผู้ร้องคัดค้านว่าบ้านที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์คืนผู้ร้อง โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาว่า บ้านพิพาทซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2528 เป็นของผู้ร้องหรือของจำเลย ผู้ร้องอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความว่า บ้านดังกล่าวผู้ร้องรื้อมาจากบ้านด่านทองหลางนำมาปลูกสร้างในที่ดินซึ่งผู้ร้องเช่าจากนายสิงห์เจริญโดยไม่มีหลักฐานการเช่ามา 8 ปีแล้วผู้ร้องมีนายพรม ชะนางกลาง เป็นพยานสนับสนุน แต่นายพรมเบิกความว่าบ้านพิพาทเดิมเป็นของนางน้อย เติกกลาง มารดาผู้ร้องต่อมาผู้ร้องจึงรื้อมาปลูกในที่เช่าของนายสิงห์เจริญ แล้วจำเลยพักอาศัยบ้านดังกล่าวกับนายสุชาติ บุญชู สามี และจำเลย จึงขัดกับความหมายในคำเบิกความของผู้ร้องที่อ้างว่า ผู้ร้องปลูกสร้างบ้านพิพาทมาเอง นอกจากนี้ ผู้ร้องก็ไม่มีหลักฐานใดมาแสดงยืนยันประกอบคำเบิกความว่าบ้านพิพาทเป็นของผู้ร้อง เช่น คำขอออกเลขที่บ้าน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสัญญาเช่าที่ดินนายสิงห์เจริญทั้งปรากฏตามข้อเท็จจริงว่า เจ้าพนักงานบังคับคดียึดบ้านพิพาทเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2528 แต่ผู้ร้องซึ่งเป็นบุตรสะใภ้จำเลยผู้รักษาทรัพย์ที่ถูกยึดเพิ่งยื่นคำร้องขัดทรัพย์เมื่อวันที่ 24กุมภาพันธ์ 2529 หลังจากยึดทรัพย์นานถึง 5 เดือนเศษ ผิดวิสัยเจ้าของทรัพย์สินที่พึงกระทำ ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์หรือคู่ความอีกฝ่ายจะไม่มีพยานมาสืบ แต่การชั่งน้ำหนักคำพยานในคดีแพ่งนั้นหาใช่หมายถึงจะต้องชั่งน้ำหนักคำพยานอันเกิดจากการนำสืบของทั้งสองฝ่ายเสมอไป ถ้าปรากฏว่า ฝ่ายใดมีภาระการพิสูจน์ก่อน เช่นผู้ร้องขัดทรัพย์ในคดีนี้ แต่คำพยานไม่น่าเชื่อถือ นำสืบไม่สมข้ออ้าง แม้เป็นการสืบฝ่ายเดียวก็ต้องแพ้คดี ศาลล่างสองศาลพิพากษายกคำร้องขัดทรัพย์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share