คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ที่ให้ ม. ฟ้องคดีแทนไม่ได้ปิดอากรแสตมป์แต่ศาลชั้นต้นก็พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยมิได้วินิจฉัยเรื่องนี้ จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาดังกล่าวโจทก์จึงได้ไปเสียอากรแสตมป์พร้อมเงินเพิ่มต่อเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ตามใบสลักหลังตราสารและส่งต่อศาลพร้อมคำแก้อุทธรณ์ แม้โจทก์จะได้เสียค่าอากรแสตมป์สำหรับหนังสือมอบอำนาจครบถ้วนในระหว่างอุทธรณ์ก็ตาม แต่ในขณะยื่นฟ้องหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 ซึ่งเท่ากับว่า ม. ฟ้องคดีนี้โดยมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ ม. จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และการไม่ปิดอากรแสตมป์นี้แม้จำเลยจะไม่ตั้งเป็นประเด็นขึ้นมาแต่แรกจำเลยก็ยกขึ้นอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ตามเช็คแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์จะมอบอำนาจให้นางสาวมาลีวรรณ เนาวสำลี ฟ้องและดำเนินคดีแทนโจทก์หรือไม่ หนังสือมอบอำนาจ ให้ฟ้องคดีจะถูกต้องสมบูรณ์และเป็นลายมือชื่อของผู้มอบอำนาจหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง จำเลยได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายในเช็คพิพาทจริง แต่เช็คพิพาทยังมิได้กรอกข้อความ และได้หายไปนางสุชาดา มีสมบัติ เก็บได้และไม่ยอมคืนให้จำเลย โจทก์ทราบดีว่านางสุชาดาเก็บเช็คได้และยังรับโอนเช็คพิพาทไว้โดยคบคิดกับนางสุชาดา ฉ้อฉลจำเลย ขอให้พิพากษายกฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า หนังสือมอบอำนาจให้นางสาวมาลีวรรณ เยาวสำลี ฟ้องคดี ไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ ต้องห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่ง พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาในชั้นนี้ตามฎีกาของโจทก์ว่า หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้และศาลอุทธรณ์ไม่อาจยกปัญหาใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีซึ่งไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ขึ้นวินิจฉัย ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์เป็นบริษัทจำกัด ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้นางสาวมาลีวรรณ เยาวสำลี เป็นผู้ฟ้องคดีนี้ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.๒ หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยมิได้วินิจฉัยเรื่องนี้ จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ โจทก์จึงได้ไปเสียอากรแสตมป์พร้อมเงินเพิ่มสำหรับใบมอบอำนาจดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ อากรแสตมป์ตามใบสลักหลังตราสารและส่งต่อศาลพร้อมคำแก้อุทธรณ์ศาลฎีกาเห็นว่า แม้โจทก์จะได้เสียค่าอากรแสตมป์สำหรับหนังสือมอบอำนาจครบถ้วนในระหว่างอุทธรณ์ก็ตาม แต่ในขณะฟ้องคดีนี้ หนังสือมอบอำนาจดังกล่าวก็ยังรับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ตามประมวลรัษฎากรมาตรา ๑๑๘ ซึ่งเท่ากับว่า นางสาวมาลีวรรณ เยาวสำลี ฟ้องคดีนี้โดยมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ นางสาวมาลีวรรณจึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้และการไม่ปิดอากรแสตมป์นี้แม้จำเลยจะไม่ตั้งเป็นประเด็นขึ้นมาแต่แรก จำเลยยกขึ้นอุทธรณ์ได้ เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
พิพากษายืน.

Share