คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยเข้าเบิกความในชั้นไต่สวนเพื่อให้ศาลสั่งอนุญาตให้จำเลยซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนั้นฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เป็นข้อความที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของจำเลย มิได้เกี่ยวพันถึงโจทก์ในคดีนี้หรือจำเลยในคดีนั้น โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องคดีในข้อหาเบิกความเท็จ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและขอแก้ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๑๐ จำเลยได้เบิกความในการไต่สวนอนาถาของศาลจังหวัดฉะเชิงเทราคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ๙๕/๒๕๑๐ ที่จำเลย (ในคดีนี้) เป็นโจทก์ฟ้องนางแฉล้มภริยาของโจทก์ (ในคดีนี้) เป็นจำเลยว่า “ข้าฯ เคยไปขอให้นางธิดาช่วยเหลือนางธิดาก็ช่วยไม่ได้ เพราะเงินทองอยู่กับสามีและสามีก็เพิกเฉยเสีย” และ “ข้าฯ ไม่มีทางจะขอให้ผู้ใดช่วยเหลือเรื่องค่าธรรมเนียมได้เลย” ซึ่งข้อความสำคัญในคดีที่ไต่สวนอนาถา ความจริงนางธิดารับรู้จนกระทั่งสามียินยอมอนุญาตให้ฟ้องความจำเลยก็ลงชื่อเป็นพยานในหนังสือยินยอมนั้น เหตุเกิดที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา โจทก์เป็นสามีนางแฉล้มและในฐานะตัวแทนนางแฉล้มจำเลยในคดีนั้นจึงมีส่วนได้เสียและเป็นผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๗
ในการไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์อ้างหนังสือมอบอำนาจเป็นตัวแทนคำเบิกความของนายวิรัตน์และหนังสือยินยอมของสามีให้นางธิดาภริยาฟ้องความซึ่งอยู่ในสำนวนคดีแพ่งดำที่ ๙๕/๒๕๑๐ เป็นพยานเอกสารแล้วไม่ติดใจสืบพยานบุคคล
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องข้อเท็จจริงตามคำฟ้องไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ คดีโจทก์จึงไม่มีมูลพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่จำเลยฟ้องคดีอย่างคนอนาถา และเบิกความต่อศาลในเรื่องเป็นคนอนาถาอย่างไรก็ตาม โจทก์หาเป็นผู้เสียหายไม่ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้ พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำเบิกความของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องนั้นเป็นข้อความที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของจำเลย มิได้เกี่ยวพันถึงโจทก์ในคดีนี้หรือจำเลยในคดีนั้นเลย แม้จะเป็นเท็จโจทก์ก็มิได้รับความเสียหายอะไร โจทก์ในฐานะคู่ความมีสิทธิที่จะนำพยานมาสืบคัดค้านคำเบิกความของจำเลยได้ตามกระบวนกฎหมายวิธีพิจารณาเท่านั้น เพราะการไต่สวนอนาถาเป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งประการใดก็ได้ โจทก์หาใช่ผู้เสียหายในกรณีนี้ไม่
ที่โจทก์ฎีกาว่า ถ้าโจทก์แพ้คดีศาลย่อมเรียกค่าธรรมเนียมที่จำเลยขอว่าความอนาถาจากโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จำเลยไม่ได้ขอว่าความอย่างคนอนาถา ถ้าโจทก์แพ้คดีก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมแทนจำเลยเช่นเดียวกัน การที่จำเลยขอว่าความอย่างคนอนาถาไม่ทำให้โจทก์เสียหายหรือต้องรับผิดในเรื่องค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
เมื่อโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายแล้ว ก็ไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของโจทก์อีกต่อไป
พิพากษายืนยกฎีกาโจทก์

Share