คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำยอมชำระเงินแก่โจทก์ในศาล โดยมีผู้ร้องเป็นผู้ค้ำประกันการชำระหนี้ตามยอมนั้นด้วย ดังนี้ หากจำเลยไม่ชำระหนี้ตามยอม โจทก์ย่อมบังคับยึดทรัพย์ของผู้ร้องชำระหนี้ได้

ย่อยาว

กรณีนี้ เดิมโจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลย แล้วจำเลยทำยอมต่อศาล ชำระเงินแก่โจทก์ แต่จำเลยผิดนัดชำระหนี้ โจทก์จึงดำเนินการบังคับคดียึดที่ดิน ๑ แปลงของนายแจง ศรีธาราม บิดาจำเลยเพื่อขายทอดตลาด อ้างว่านายแจงเป็นผู้ค้ำประกันที่ยอมรับผิดใช้หนี้แทนจำเลยในเมื่อจำเลยไม่ชำระ
นายแจงผู้ร้องคัดค้านว่ามิได้เป็นผู้ค้ำประกันจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจยึดทรัพย์ของผู้ร้อง ขอให้ถอนการยึด
โจทก์ยืนยันว่าผู้ร้องเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยต่อศาล
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วฟังว่า ผู้ร้องเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยต่อศาล เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้แก่โจทก์ โจทก์ย่อมขอยึดทรัพย์ผู้ร้องในการบังคับคดีได้ พิพากษายกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ตามพฤติการณ์แห่งรูปคดี ฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าผู้ร้องได้ตกลงค้ำประกันจำเลยไว้จริง ผู้ร้องจึงต้องรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันในศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๗๔
พิพากษายืน

Share