แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
รถยนต์ที่ อ. นำมาแล่นหาเสียง โดย ค. ผู้สมัครในทีมเดียวกับจำเลยเป็นผู้ว่าจ้างมาหาเสียงให้จำเลยและทีมงาน มีแผ่นป้ายหาเสียงของจำเลยและทีมงานติดตั้งอยู่ และเมื่อมีค่าใช้จ่ายในการที่ อ. นำรถยนต์แล่นหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อว่าจ้างของ ค. หรือจำเลยเป็นผู้ว่าจ้างเอง จำเลยมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการว่าจ้างตามกฎหมาย แม้ว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวเมื่อนำมารวมกับบัญชีค่าใช้จ่ายที่จำเลยได้ยื่นไว้แล้วจะมีจำนวนไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดก็ตาม การที่จำเลยไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายดังกล่าวจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 55 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 54, 55, 117 และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนดระยะเวลา 5 ปี
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างพิจารณา นายปุ๋ยหรือคำผุย ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 ซึ่งอัยการสูงสุดได้มอบหมายรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 55 วรรคหนึ่ง, 117 วรรคหนึ่ง ให้จำคุก 3 เดือน และปรับ 20,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนด 5 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษา
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่โต้แย้งรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลสงเปลือย อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้ง จำเลยได้ยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งภายในกำหนดเก้าสิบวัน แต่บัญชีค่าใช้จ่ายที่จำเลยยื่นไม่มีรายการบัญชีค่าใช้จ่ายของรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน บธ 2890 กาฬสินธุ์ ที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งให้จำเลยต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่า จำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า รถยนต์ที่นายอุดมนำมาแล่นหาเสียงมีแผ่นป้ายหาเสียงโฆษณาของจำเลยและทีมงานติดตั้งอยู่ จำเลยจะปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องการนำรถยนต์ดังกล่าวมาหาเสียงให้จำเลยจึงฟังไม่ขึ้น ส่วนปัญหาที่ว่า การที่นายอุดมนำรถยนต์มาแล่นหาเสียงให้จำเลยจะเกิดจากการติดต่อว่าจ้างของจำเลยโดยตรงหรือเกิดจากการติดต่อว่าจ้างของนายเคนโดยที่จำเลยไม่เคยทราบเรื่องดังที่จำเลยต่อสู้นั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 54 วรรคสอง บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้สมัครใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง จำนวนเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้รวมถึงบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้จ่ายหรือรับว่าจะจ่ายแทน และทรัพย์สินที่บุคคลอื่นได้นำมาให้ใช้หรือยกให้โดยไม่คิดค่าตอบแทน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครโดยผู้สมัครรับรู้หรือยินยอม…” และวรรคสามบัญญัติว่า “บรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้ใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัครและผู้สมัครได้รับทราบถึงการกระทำดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าเป็นจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่ผู้สมัครรับรู้หรือยินยอมตามวรรคสอง…” ตามบทบัญญัติดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการที่นายอุดมนำรถยนต์มาแล่นหาเสียงให้แก่จำเลยจะต้องมีค่าใช้จ่าย ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการติดต่อการว่าจ้างของนายเคนหรือจำเลยเป็นผู้ว่าจ้างเอง ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการว่าจ้างเป็นหน้าที่ที่จำเลยจะต้องยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย แม้ว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวเมื่อนำมารวมกับบัญชีค่าใช้จ่ายที่จำเลยได้ยื่นไว้แล้วจะมีจำนวนไม่เกินตามกฎหมายที่กำหนดไว้ก็ตาม ดังนั้นการที่จำเลยไม่ยื่นรายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 2890 กาฬสินธุ์ ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 55 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้อง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาลงโทษจำเลยชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน