คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5531/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องในฐานะภรรยาของจำเลยที่ 2 ลงชื่อให้ความยินยอมในการทำนิติกรรมจำนองที่ดิน แม้หนังสือยินยอมจะไม่ได้ทำที่สำนักงานที่ดิน และต่อเจ้าพนักงานที่ดินก็มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายไม่ขัดต่อ ป.พ.พ. มาตรา 1479 หนังสือยินยอมระบุว่า กิจการใดที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปผู้ร้องร่วมรับผิดชอบในนิติกรรมนั้นด้วย เสมือนหนึ่งผู้ร้องได้กระทำเองทุกประการ แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องได้รับรู้ถึงหนี้สินที่จำเลยที่ 2ได้ก่อให้เกิดขึ้น และถือได้ว่าผู้ร้องให้สัตยาบันหนี้ดังกล่าวจึงเป็นหนี้ร่วมตาม ป.พ.พ. มาตรา 1490 ต้องผูกพันที่ดินและทรัพย์สินอื่นรวมทั้งส่วนของผู้ร้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นสินสมรสและสินส่วนตัว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1489 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอกันส่วน.

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากจำเลยทั้งสามไม่ชำระหนี้จำนวน18,804,098.41 บาท แก่โจทก์ตามคำพิพากษาตามยอมของศาลชั้นต้นโจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่ดินแปดแปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างเครื่องชั่ง ขนาด 40 ตัน เครื่องอัดลมรถยนต์ยี่ห้อพีซีแอลพร้อมปั๊ม เครื่องอัดจาระบี 3 เครื่อง เครื่องอัดมันเม็ดเครื่องตีป่น เครื่องระบายความร้อน หม้อแปลงไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศยี่ห้อเฟดเดอร์ขนาด 2 ตัน เครื่องสีข้าวโพด เครื่องวัดความชื้นสิทธิการเช่าโทรศัพท์ ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้เป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับจำเลยที่ 2 จึงขอกันส่วนเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดครึ่งหนึ่ง
โจทก์คัดค้านว่า ที่ดินทั้งแปดแปลงจำเลยที่ 2 จำนองไว้กับโจทก์โดยผู้ร้องรู้เห็นยินยอม หนี้จำนองดังกล่าวทั้งหมดจึงเป็นหนี้ร่วมของผู้ร้องกับจำเลยที่ 2 ส่วนทรัพย์นอกนั้นเป็นของจำเลยที่ 1 ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิกันส่วน ขอให้ยกคำร้อง
ก่อนไต่สวนโจทก์แถลงไม่คัดค้านที่ผู้ร้องขอแบ่งเงินจากการขายเครื่องชั่ง เครื่องสีข้าวโพด เครื่องวัดความชื้น และสิทธิการเช่าโทรศัพท์ ครึ่งหนึ่ง
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องแบ่งเงินที่ได้จากการขายเครื่องชั่ง เครื่องสีข้าวโพด เครื่องวัดความชื้นสิทธิการเช่าโทรศัพท์ เครื่องอัดจาระบี 3 เครื่อง เครื่องปรับอากาศยี่ห้อเฟดเดอร์ และเครื่องอัดลมรถยนต์พร้อมปั๊มครึ่งหนึ่ง คำขอของผู้ร้องนอกจากนี้ให้ยก
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ผู้ร้องฎีกาข้อแรกว่าแม้ผู้ร้องลงชื่อยินยอมให้จำเลยที่ 2 ทำนิติกรรมจำนองที่ดินพิพาททั้งแปดแปลงแต่นิติกรรมจำนองก็ไม่สมบูรณ์ เพราะหนังสือยินยอมมิได้ทำที่สำนักงานที่ดินและต่อเจ้าพนักงานที่ดิน เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1479 บัญญัติไว้เพียงว่า ผู้ร้องในฐานะภรรยาของจำเลยที่ 2 ต้องให้ความยินยอมโดยทำเป็นหนังสือเท่านั้น หาได้มีบทบัญญัติให้ทำหนังสือยินยอมที่สำนักงานที่ดิน และต่อเจ้าพนักงานที่ดินไม่ นิติกรรมจำนองที่จำเลยที่ 2 ทำกับโจทก์จึงมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย และตามหนังสือยินยอมเอกสารหมาย จ.1 จ.2 จ.5ถึง จ.9 ผู้ร้องระบุว่าให้ความยินยอมให้จำเลยที่ 2 ทำนิติกรรมเกี่ยวกับการแก้ไขหนี้จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 2052, 2053, 2054, 2055และ 2056 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา และให้ความยินยอมให้จำเลยที่ 2 ทำนิติกรรมเกี่ยวกับสัญญาเบิกเงินบัญชีเกินบัญชี ในวงเงิน 7,500,000 บาท กับโจทก์ได้ กิจการใดที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปผู้ร้องขอร่วมรับผิดชอบในนิติกรรมนั้นด้วยเสมือนผู้หนึ่งผู้ร้องได้กระทำเองทุกประการ ดังนี้ แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องได้รับรู้ ถึงหนี้สินที่จำเลยที่ 2 ได้ก่อให้เกิดขึ้นถือได้ว่าผู้ร้องให้สัตยาบันหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ร่วมกันระหว่างจำเลยที่ 2 กับผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1490จึงต้องผูกพันที่ดินและทรัพย์สินอื่นทั้งหมดรวมทั้งส่วนของผู้ร้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นสินสมรสและสินส่วนตัวของผู้ร้อง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1489 ดังนั้น ไม่ว่าที่ดินเครื่องอัดมันเม็ด เครื่องตีป่น เครื่องระบายความร้อนและหม้อแปลงไฟฟ้าจะเป็นทรัพย์ของจำเลยที่ 2 หรือทรัพย์ส่วนตัวของผู้ร้องก็ตาม ผู้ร้องก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ จะร้องขอกันส่วนไม่ได้ไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของผู้ร้องอีกต่อไปที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผลฎีกาผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share