คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอ้างเหตุปฏิเสธไม่ยอมรับงานที่จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้สร้างและจัดทำภาพยนตร์โฆษณาทาง โทรทัศน์ เพื่อโฆษณาถุงน่องสตรีเพราะโจทก์ผิดสัญญาในสาระสำคัญ 2 ประการ คือประการแรกเกี่ยวกับใบหน้าของนางแบบ โจทก์หานางแบบชาวต่างประเทศไม่ได้ จำเลยจึงยอมรับนางแบบคนไทยเพราะโจทก์รับรองว่าจะใช้เทคนิคในการแต่งหน้าและการถ่ายทำให้ดูเป็นปริศนาว่าเป็นชาวต่างประเทศ และจำเลยต้องการให้เห็นหน้าเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ผลการถ่ายทำภาพยนตร์ของโจทก์เห็นใบหน้าของนางแบบชัดเจน รู้ได้ว่าเป็นคนไทยคุ้น หน้าแก่บุคคลทั่วไปเคยแสดงแบบในนิตยสารมาก่อน ประการที่สองฉาก ภาพยนตร์ซึ่งแสดงความสนใจที่ นาย แบบมีต่อนางแบบ ภาพสะท้อนจากเลนซ์ แว่นตา ของนายแบบคือช่วงขาของนางแบบซึ่งสวมถุงน่องอันเป็นสินค้าที่โฆษณา ปรากฏว่าขาของนางแบบโค้งงอ ไม่น่าดู ดังนี้ ตามธรรมดาถ้าใบหน้านางแบบสวย น่าดูเป็นผู้มีชื่อเสียง เคยแสดงแบบในนิตยสารเป็นที่คุ้น หน้าแก่บุคคลทั่วไป ก็น่าจะทำให้การโฆษณาสินค้าของจำเลยดีกว่านางแบบที่คนไม่เคยรู้จักหน้า ทั้งจำเลยเป็นผู้เลือกนางแบบเองด้วยไม่ปรากฏว่าการเห็นใบหน้านางแบบชัดเจนจะทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ข้อสาระสำคัญ ส่วนข้อที่ว่าภาพขานางแบบโค้งงอไม่น่าดู ปรากฏว่าฉาก ขานางแบบซึ่งปรากฏในเลนซ์ แว่นตา ของนายแบบระยะเวลาสั้นมาก ทำให้ผู้ดูมองไม่ออกว่าขานางแบบโค้งงอ แสดงว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขแล้ว แม้จะเห็นในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ดีกว่าถ่ายทำใหม่ให้เห็นในระยะเวลานานแต่สิ้นค่าใช้จ่ายสูง ถือได้ว่าเป็นข้อบกพร่องเล็กน้อยเท่านั้น โจทก์มิได้ผิดสัญญา จำเลยจะปฏิเสธไม่รับงานและไม่ชำระสินจ้างไม่ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์สร้างและจัดทำภาพยนต์โฆษณาทางโทรทัศน์ เพื่อโฆษณาถุงเท้าเชอรีล่อน ซึ่งเป็นสินค้าของจำเลย ตกลงให้สินจ้างแก่โจทก์ 536,637 บาท โจทก์ได้จัดทำภาพยนต์ดังกล่าวแล้วแจ้งให้จำเลยตรวจรับงานและจ่ายสินจ้าง จำเลยกลับเพิกเฉยและปฏิเสธไม่จ่ายสินจ้าง เพื่อให้ข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยหมดไป โจทก์จึงแจ้งให้จำเลยจ่ายสินจ้างตามราคาของงานที่แท้จริงเพียง 367,350 บาท แต่จำเลยก็ยังคงเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวและดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า ภาพยนตร์ที่โจทก์ถ่ายทำไม่เป็นไปตามความประสงค์ของจำเลย และไม่ดีพอ จำเลยจึงไม่ยอมรับงานและแจ้งให้โจทก์แก้ไขหรือจัดทำใหม่ แต่โจทก์ก็ไม่ทำในที่สุดโจทก์ยอมรับความผิดพลาดและขอสินจ้างลดลงเหลือเพียง 367,350 บาท ซึ่งจำเลยไม่มีหน้าที่จะต้องให้ โจทก์ในผลงานที่ผิดข้อตกลงเช่นว่านั้นและการกระทำของโจทก์เป็นเหตุให้จำเลยต้องเสียหายไม่สามารถนำภาพยนตร์ออกไปฉายโฆษณาทันกำหนด ขอให้ยกฟ้องโจทก์ และบังคับให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย 200,000 บาท แก่จำเลย และต่อไปเป็นรายเดือนเดือนละ 50,000 บาท นับแต่วันฟ้องแย้งไปจนกว่าโจทก์จะจัดทำภาพยนตร์ที่มีคุณภาพและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตกลงร่วมกันให้แก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาการที่จำเลยไม่ยอมรับมอบงานของโจทก์จึงเป็นความผิดของจำเลยฝ่ายเดียว จำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ถ่ายทำภาพยนตร์เสร็จสิ้นมีมาตรฐานพอสมควร แต่ไม่ดีเด่นเท่าที่ควร จึงลดสินจ้างลง พิพากษาให้จำเลยใช้เงินจำนวน 250,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่เดือนมิถุนายน 2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จและให้จำเลยรับมอบภาพยนคร์ พิพาทจากโจทก์ คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้และคำฟ้องแย้งของจำเลยให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้ความเบื้องต้นว่า จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์สร้างและจัดทำภาพยนตร์เพื่อโฆษณาถุงเท้าเชอรีล่อน ทางโทรทัศน์เป็นเงิน 536,637 บาท มีข้อตกลงกันว่า กรณีผู้ว่าจ้างไม่ยอมรับงานโดยมิใช่ความผิดของผู้รับจ้าง ผู้ว่าจ้างจะต้องจ่ายสินจ้างตามผลงานก่อนถ่ายทำโจทก์จำเลยร่วมกันประชุมวางแนวทางในการสร้าง เช่นการตกแต่งฉาก การเลือกตัวนางแบบ การสร้างบท ตลอดจนการประมาณราคาซึ่งได้ทำรายงานการประชุมทุกครั้ง การเลือกนางแบบนั้นหานางแบบต่างประเทศไม่ได้ จำเลยตกลงเลือกนางแบบไทย ปรากฏว่าภาพยนตร์ที่โจทก์จัดสร้างไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่เป็นที่ประทับใจของจำเลยเฉพาะเกี่ยวกับตัวนางแบบ การนั่งและการเดินช่วงขาไม่สวยงามไม่เป็นธรรมชาติ เห็นใบหน้าชัดเจนดูรู้ว่าเป็นคนไทย ในฉากที่แสดงถึงชายหนุ่มนายแบบสนใจขานางแบบปรากฎในเลนซ์แว่นตาของนายแบบเห็นช่วงขาโค้งงอ นางแบบดูคล้ายกระเทย โจทก์จำเลยได้ตกลงกันให้โจทก์เลือกฟิล์มส่วนที่ไม่เห็นหน้าผู้หญิง ฉากตอนเดินผู้หญิงที่เดินขึ้นบันไดไม่มีท่างดงามและขาก็ไม่สวย ฉากซื้อของ ผู้หญิงที่เดินข้ามถนนคล้ายกระเทย โจทก์จะต้องถ่ายทำใหม่แล้วเสนอให้จำเลยโดยเร็วที่สุด ต่อมาโจทก์เสนอและต่อจำเลยให้ทำการวิจัยภาพยนตร์ ในหมู่ผู้ชมที่คัดเลือกแล้ว (target audience) จำเลยไม่ยอมรับแต่ตกลงจะชำระค่าใช้จ่ายที่เสียไปจนถึงชั้นนี้ โจทก์ได้มีหนังสือแสดงรายละเอียดค่าใช้จ่ายรวมเป็นเงิน 367,350 บาท ไปให้จำเลย แต่จำเลยไม่ชำระ
พิเคราะห์แล้ว จำเลยฎีกาว่า โจทก์ผิดสัญญาในสาระสำคัญ 2ประการ อันเป็นเหตุให้จำเลยปฏิเสธไม่ยอมรับงาน คือ ประการแรกเกี่ยวกับใบหน้าของนางแบบ โจทก์หานางแบบชาวต่างประเทศไม่ได้จำเลยจึงยอมรับนางแบบคนไทยเพราะโจทก์รับรองว่าจะใช้เทคนิคในการแต่งหน้าและการถ่ายทำให้ดูเป็นปริศนาว่าเป็นชาวต่างประเทศและจำเลยต้องการให้เห็นหน้าเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ผลของการทำภาพยนตร์ของโจทก์เมื่อศาลชั้นต้นไปเผชิญสืบในตอนท้ายของภาพยนตร์เห็นใบหน้าของนางแบบชัดเจน รู้ได้ว่าเป็นคนไทย คุ้นหน้าแก่บุคคลทั่วไป เคยแสดงแบบในนิตยสารมาก่อนประการทีสองฉากภาพยนตร์ตามสตอรี่บอร์ด ซึ่งแสดงความสนใจที่นายแบบมีต่อนางแบบ ภาพสะท้อนจากเลนซ์แว่นตาของนายแบบคือช่วงขาของนางแบบซึ่งสวมถุงน่องอันเป็นสินค้าที่โฆษณา ปรากฏว่าขาของนางแบบโค้งงอไม่น่าดู ศาลฎีกาเห็นว่าตามธรรมดาถ้าใบหน้านางแบบสวยน่าดู เป็นผู้มีชื่อเสียง เคยแสดงแบบในนิตยสารเป็นที่คุ้นหน้าแก่บุคคลทั่วไปก็น่าจะทำให้การโฆษณาสินค้าของจำเลยดีกว่านางแบบที่คนไม่เคยรู้จักหน้า ทั้งจำเลยเป็นผู้เลือกนางแบบเองด้วย จำเลยมิได้นำสืบให้เห็นว่าการเห็นใบหน้านางแบบชัดเจนจะทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใดจึงไม่ใช้ข้อสาระสำคัญข้อที่ว่าภาพขานางแบบโค้งงอไม่น่าดูนั้น นางสาวดวงดาว รัตนโสภิตกุลพยานจำเลยซึ่งมีตำแหน่งโฆษณาประชาสัมพันธ์และเป็นผู้ช่วยของนางนงลักษณ์ เตชะชัยวงศ์ กรรมการบริษัทจำเลยเบิกความว่า ในวันศาลชั้นต้นไปเผชิญสืบดูภาพยนตร์ พยานได้ไปด้วย ภาพยนตร์ที่ฉายให้ดูบางส่วนไม่เหมือนกับขั้นดับเบิ้ลเฮด ที่เคยดู ฉากขานางแบบซึ่งปรากฎในเลนซ์แว่นตาของนายแบบระยะเวลาสั้นมาก ทำให้ผู้ดูมองไม่ออกว่าขานางแบบคดงอ ดังนี้แสดงว่าโจทก์ได้จัดการแก้ไขแล้วแม้จะเห็นในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็ดีกว่าถ่ายทำใหม่ให้เห็นในระยะเวลานานแต่สิ้นค่าใช้จ่ายสูง ถือได้ว่าเป็นข้อบกพร่องเล็กน้อยเท่านั้น โจทก์มิได้ผิดสัญญา จำเลยจะปฏิเสธไม่รับงานและไม่ชำระสินจ้างไม่ได้
พิพากษายืน.

Share