แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องผู้ร้องกับจำเลยที่ 2 ในฐานะทายาทโดยธรรมและเป็นผู้มีสิทธิรับมรดกของ พ. ผู้ตายให้รับผิดชำระค่าเสียหายจากการละเมิดของ พ. ตามคำฟ้องของโจทก์เป็นกรณีที่โจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องต่อกองมรกดของ พ. ความรับผิดของผู้ร้องตามคำฟ้องเป็นความรับผิดในฐานะทายาทโดยธรรมของ พ. มิใช่ในฐานะส่วนตัว แม้ผู้ร้องจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ในคดีนี้ ก็ไม่เป็นเหตุให้ผู้ร้องต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นการส่วนตัว เมื่อที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ร้องมิใช่ทรัพย์สินในกองมรดกของ พ. โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับคดีเอากับที่ดินดังกล่าว
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของนายไพฑูรย์ บุญวาที ร่วมกันชำระค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการที่นายไพฑูรย์ กระทำละเมิดต่อโจทก์จำนวน 328,896 บาท พร้อมดอกเบี้ย จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ระหว่างพิจารณาโจทก์และจำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม แต่จำเลยทั้งสองไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์ขอให้บังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 7694 ซึ่งมีชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์
ผู้ร้อง (จำเลยที่ 1) ยื่นคำร้องขอว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ร้องมิใช่ทรัพย์มรดก โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์ดังกล่าว ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์ให้การว่า โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองให้รับผิดชำระค่าเสียหายที่นายไพฑูรย์ บุญวาที กระทำละเมิดต่อโจทก์ในฐานะทายาทโดยธรรมและเป็นผู้รับมรดกของนายไพฑูรย์ ต่อมาโจทก์และจำเลยทั้งสองได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมแล้ว ย่อมมีผลทำให้การเรียกร้องซึ่งแต่ละฝ่ายได้ยอมสละนั้นระงับสิ้นไปและทำให้แต่ละฝ่ายเกิดสิทธิตามสัญญาประนีประนอมยอมความและเกิดสิทธิที่จะบังคับตามคำพิพากษาตามยอม การที่โจทก์นำยึดที่ดินของผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยที่ 1 จึงชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้องขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ปล่อยที่ดินโฉนดเลขที่ 7694 ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด คืนแก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายในมูลละเมิดที่นายไพฑูรย์ บุญวาที ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ในฐานะที่ผู้ร้องกับจำเลยที่ 2 เป็นทายาทโดยธรรมตามกฎหมายและเป็นผู้รับมรดกของนายไพฑูรย์ ต่อมาโจทก์และผู้ร้องกับจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลมีคำพิพากษาตามยอมแล้วย่อมมีผลผูกพันคู่ความโจทก์ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงมีสิทธิที่จะบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอมและนำยึดที่ดินของผู้ร้องได้โดยชอบด้วยกฎหมายนั้น เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่า นายไพฑูรย์ บุญวาที กระทำละเมิดต่อโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย แต่นายไพฑูรย์ได้ถึงแก่ความตายก่อนโจทก์นำคดีมาฟ้อง โจทก์จึงฟ้องผู้ร้องและจำเลยที่ 2 ในฐานะทายาทโดยธรรมและเป็นผู้มีสิทธิรับมรดกของนายไพฑูรย์ให้รับผิดชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ ตามคำฟ้องโจทก์เป็นกรณีที่โจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องต่อกองมรดกของนายไพฑูรย์ ความรับผิดของผู้ร้องตามคำฟ้องเป็นความรับผิดในฐานะทายาทโดยธรรมของนายไพฑูรย์ มิใช่ในฐานะส่วนตัว แม้ผู้ร้องจะทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ในคดีนี้ ก็ไม่เป็นเหตุให้ผู้ร้องต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นการส่วนตัว เมื่อที่ดิน โฉนดเลขที่ 7694 ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ร้องมิใช่ทรัพย์สินในกองมรดกของนายไพฑูรย์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับคดีเอากับที่ดินดังกล่าว ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำพิพากษาต้องตามกันมาให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน