คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5525/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754เป็นอายุความห้ามฟ้องคดีมรดกหรือคดีที่เจ้าหนี้ขอบังคับตามสิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดก แต่คดีนี้โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ส.ฟ้องขับไล่จำเลยให้ขนย้ายบริวารและทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวพิพาทซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของ ส. เจ้ามรดก แม้โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่ เจ้ามรดกตาย คดีของโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความ เพราะมิใช่เป็น คดีมรดกหรือคดีที่เจ้าหนี้ขอบังคับตามสิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดก หากแต่เป็นกรณีที่กองมรดกฟ้องขับไล่ผู้อาศัยอยู่ในทรัพย์มรดกของผู้ตาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนายสุรชัยจูฑาวัฒนานนท์ ตามคำสั่งศาล จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันอาศัยอยู่ในตึกแถวพิพาทซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดกของนายสุรชัยมาหลายปีแล้ว ที่ประชุมทายาทของนายสุรชัยมีมติให้จำเลยทั้งสองออกไปจากตึกแถวดังกล่าว โจทก์จึงมอบให้ทนายความมีหนังสือแจ้งให้จำเลยทั้งสองออกไปจากตึกแถวภายใน 30 วัน จำเลยทั้งสองไม่ยอม ทำให้กองมรดกของนายสุรชัยได้รับความเสียหายขาดประโยชน์ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 20,000 บาทขอให้บังคับจำเลยทั้งสองขนย้ายบริวารและทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวพิพาท กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 20,000 บาท นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะขนย้ายบริวารและทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวพิพาท
จำเลยที่ 1 ให้การว่า ตึกแถวพิพาทและที่ดินไม่ใช่ทรัพย์มรดกของนายสุรชัย จูฑาวัฒนานนท์ แต่เป็นทรัพย์มรดกของนายสุชาติ จูฑาวัฒนานนท์ ซึ่งเป็นบิดาของนายสุรชัยและจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 มิได้อยู่ในฐานะผู้อาศัยแต่ได้ครอบครองทรัพย์มรดกพิพาทตลอดมาในฐานะทายาทโดยธรรมของนายสุชาติโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเนื่องจากโจทก์ฟ้องคดีเกี่ยวกับมรดกเกิน 1 ปีนับแต่เจ้ามรดกตาย ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองขนย้ายบริวารและทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวพิพาท ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 4,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะขนย้ายบริวารและทรัพย์สินออกไปเสร็จสิ้น
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาประการแรกว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้น 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีของโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754 ดังกล่าวนั้นเป็นอายุความห้ามฟ้องคดีมรดกหรือคดีที่เจ้าหนี้ขอบังคับตามสิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดกสำหรับคดีนี้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายสุรชัย จูฑาวัฒนานนท์ ฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองให้ขนย้ายบริวารและทรัพย์สินออกไปจากตึกแถวพิพาทซึ่งเป็นทรัพย์มรดกของนายสุรชัยเจ้ามรดก แม้โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกตาย คดีของโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความเพราะคดีนี้มิใช่เป็นคดีมรดกหรือคดีที่เจ้าหนี้ขอบังคับตามสิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดก หากแต่เป็นกรณีที่กองมรดกฟ้องขับไล่ผู้อาศัยอยู่ในทรัพย์มรดกของผู้ตายซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งมาตรา 1754ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share