คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำให้การจำเลยมิได้กล่าวว่า คำฟ้องของโจทก์ไม่ชัดแจ้งไม่แน่นอนขาดสารสำคัญและขาดรายละเอียดในข้อไหนอย่างไรจึงเป็นคำให้การที่ไม่แสดงเหตุให้ชัดแจ้ง ไม่ก่อให้เกิดประเด็นข้อพิพาทในเรื่องฟ้องเคลือบคลุม แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยให้ ก็เป็นการวินิจฉัยที่ไม่ชอบถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1033ตำบลจรเข้บัว (คลองกุ่ม) อำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 55 ไร่ 33 งาน84 ตารางวา ทางทิศเหนือจดที่ดินโฉนดเลขที่ 1031 ของจำเลย ระหว่างที่ดินโจทก์จำเลยมีคัรนาเป็นเขตตลอดแนว เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2517 จำเลยได้บุกรุกเข้าปักเสารั้วคอนกรีตและขึงลวดหนามรุกล้ำเข้ามาในที่ดินของโจทก์ เนื้อที่ประมาณ39.34 ตารางวา โจทก์ได้ยื่นคำขอรังวัดสอบเขต จำเลยคัดค้าน ทำให้โจทก์เสียหายขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนเสาคอนกรีตและลวดหนามออกไปจากที่ดินโจทก์ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย 2,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า โจทก์บรรยายฟ้องไม่ชัดแจ้ง ไม่แน่นอน ขาดสารสำคัญจำเลยไม่สามารถเข้าใจและต่อสู้คดีได้ ฟ้องโจทก์จึงเคลือบคลุม จำเลยไม่ได้บุกรุกเสารั้วคอนกรีตและลวดหนามปักอยู่ในเขตที่ดินของจำเลย โจทก์ไม่เสียหาย

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม จำเลยทำรั้วรุกล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์ จำเลยคัดค้านการรังวัดของโจทก์โดยสุจริต โจทก์ไม่เสียหายพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนเสารั้วคอนกรีตและลวดหนามที่ทำรุกล้ำที่ดินโจทก์ตามแนวเขตที่ศาลกำหนดไว้ ให้จำเลยมีหนังสือถอนการคัดค้านการรังวัดที่ดินของโจทก์ห้ามมิให้จำเลยขัดขวางในการรังวัดที่ดินของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้ามาเกี่ยวข้องกับที่ดินโจทก์ต่อไป

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกา วินิจฉัยข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยเป็นประการแรกว่าโจทก์ได้บรรยายในคำฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้ามาปักเสารั้วในที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่เท่าใดทิศใด มีความกว้างยาวเท่าใด เนื้อที่เท่าใด และไม่ปรากฏว่าอาณาเขตที่ดินของโจทก์กว้างเท่าใด ยาวเท่าใด จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม ในข้อนี้จำเลยให้การไว้ว่าคำฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเพราะโจทก์บรรยายฟ้องไม่ชัดแจ้ง ไม่แน่นอน ขาดสารสำคัญอันเป็นองค์ประกอบแห่งคำฟ้อง และคำฟ้องของโจทก์ขาดรายละเอียดแห่งคำฟ้องด้วยทำให้ฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์และไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จำเลยไม่สามารถเข้าใจคำฟ้องของโจทก์ เห็นว่า คำให้การจำเลยมิได้กล่าวว่าคำฟ้องของโจทก์ไม่ชัดแจ้งไม่แน่นอน ขาดสารสำคัญและรายละเอียดในข้อไหนอย่างไร จึงเป็นคำให้การที่ไม่แสดงเหตุให้ชัดแจ้ง ไม่ก่อให้เกิดประเด็นข้อพิพาทในเรื่องฟ้องเคลือบคลุม แม้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยให้ ก็เป็นการวินิจฉัยที่ไม่ชอบ ถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายืน

Share