แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฆ่าคนเพื่อเอาทรัพย์ ศาลฎีกามีอำนาจเพิ่มโทษในคดีที่จำเลยผู้เดียวฎีกาขึ้นมาคำให้การของจำเลยที่ศาลยกขึ้นประกอบการพิจารณาชี้ขาดข้อเท็จจริงนั้น เปนเหตุควรได้รับความปราณีย์
ย่อยาว
ได้ความว่าจำเลยกับพวกอีก ๒ คนมาหลอกลวง ส.ไปฆ่าเสีย แล้วเก็บเอาของแต่งตัวไปรวมราคา ๑๐๒ บาท โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๕๐-๓๐๑ จำเลยให้การว่าพา ส.ไปหาหมอเสน่ห์ไม่พบ ส.ด่าว่าแลเตะจำเลย ๆ ก็ต่อยเอาบ้าง ส.เอามีดแทงจำเลยถูกข้อศอกขวาและเอาหวายตีจำเลยโดนขมับซ้าย นายลิ้ม นายตี๋เข้าจับ ส. ๆ กลับแทงเอา นายตี๋แย่งมีดได้ นายลิ้มจับแขน ส.ทั้ง ๒ ข้างไว้ แล้วนายตี๋ก็แทง ส.ประมาณ ๒๐ ที นายลิ้ม นายตี๋ช่วยกันเก็บทรัพย์ที่ตัว ส.ไป จำเลยไม่ได้รับส่วนแบ่งด้วย
ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๒๔๙ ให้จำคุกตลอดชีวิต แลใช้ทรัพย์แก่ทายาทของ ส.
ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๒๕๐ ข้อ ๕-๖ แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ จึงไม่แก้กำหนดโทษจำเลย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินว่าที่ศาลอุทธรณ์ปรับบทลงโทษจำเลย แต่ไม่ลงอาญาตามบทนั้นไม่ชอบจึงแก้ศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยตาม ม.๒๕๐ ข้อ ๕ แต่ได้อาศัยคำรับของจำเลยวินิจฉัยชี้ขาดว่า จำเลยได้ทำผิด แลเหตุนี้เปนทำนองเดียวกับที่บัญญัติไว้ว่า เปนเหตุควรปราณีย์ตาม ม.๕๙ จึงให้ลดโทษจำเลยลง ๑ ใน ๓ คงจำคุกตลอดชีวิต