แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ลักษณพะยาน คำซัดทอดของผู้ต้องหาว่ากระทำผิดด้วยกัน เมื่อไม่มีพะยานหรือเหตุผลอื่นประกอบโดยใกล้ชิดแล้วจะฟังมาลงโทษไม่ได้
ย่อยาว
คดีนี้ศาลเดิมตัดสินว่าจำเลยกับ น.ซึ่งศาลตัดสินลงโทษ คดีถึงที่สุดไปแล้วเป็นผู้ร้ายลักเงินหลวงจากกำ+ซึ่งเก็บไว้ที่สถานีตำรวจบ้านทวนไป ๑๗๔๒ บาท ๕๖ สตางค์ เจ้าพนักงานค้นเงินของกลางได้ที่โรงจำเลยแล้ว ๔๐๙ บาท ๕ สตางค์ จำเลยมีผิดตาม ม.๒๙๓ ข้อ ๑-๔-๑๑ ให้จำคุก ๔ ปีและใช้เงิน ๑๓๑๓ บาท ๕๑ สตางค์
ศาลอุทธรณ์ตัดสินกลับยกฟ้องโจทก์ ปล่อยจำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่าพะยานหลักฐานของโจทก์มีคำให้การของ พ.และ น.ที่ซัดทอดจำเลยกับเงินของกลางที่ค้นได้ที่บ้านจำเลย แต่ถ้อยคำของ พ.น.ไม่มีน้ำหนักอันควรเชื่อถือ เพราะได้ผู้ถูกหาว่าลักทรัพย์รายนี้ด้วยเจ้าพนักงานได้คุมขังไว้ พ.ก็มิได้ให้การประการใดต่อมาอีก ๗-๘ วัน จึงให้การซัดทอดถึงจำเลย ทั้งมีพะยานยืนยันเอาว่า พ.เป็นผู้ร้ายลักเงินรายนี้ถึง ๔ ปากส่วน น.ชั้นแรกให้การว่า พ.เป็นผู้ร้าย ต่อเมื่อค้นของกลางได้ที่บ้านจำเลยจึงกลับให้การว่าจำเลยเป็นผู้ร้ายและของกลางที่ค้นได้ที่บ้านจำเลยนั้น ก็ฝังอยู่แต่เพียงธรณีประตูห้อง อาจมีคนอยู่ข้างนอกเอาไปซุกใส่ไว้ก็ได้ รูปคดียังเป็นที่สงสัย ไม่พอฟังว่าจำเลยเป็นผู้ร้ายลักเงินรายนี้ จึงตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์