แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยรับราชการได้รับเงินเดือนเดือนละ8,630บาทและมีที่ดินมีโฉนดโดยถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับ น. แม้ที่ดินดังกล่าวจะติดจำนองธนาคารในวงเงิน1,300,000บาทแต่ไม่ได้ความว่าหนี้จำนองดังกล่าวท่วมราคาที่ดินที่ติดจำนองและไม่ปรากฏว่าจำเลยเป็นหนี้บุคคลอื่นอีกฉะนั้นแม้จะฟังว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์จำนวน55,000บาทและจำเลยได้รับหนังสือทวงถามจากโจทก์ให้ชำระหนี้แล้วสองครั้งซึ่งมีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่าสามสิบวันอันเป็นข้อสันนิษฐานว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้วก็ตามจำเลยก็ยังอยู่ในฐานะที่สามารถขวนขวายหาเงินมาชำระหนี้โจทก์ได้พฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุที่ยังไม่สมควรให้จำเลยล้มละลาย
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ มี คำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จำเลย เด็ดขาด และ พิพากษาให้ จำเลย เป็น บุคคล ล้มละลาย
จำเลย ให้การ ว่า จำเลย ไม่ได้ เป็น หนี้ โจทก์ และ ไม่เคย ได้รับหนังสือ ทวงถาม จาก โจทก์ จำเลย กู้เงิน นาง กาญจนา 25,000 บาท และ ชำระ ดอกเบี้ย ตลอดมา จำเลย รับ ราชการ อยู่ ที่ กรมทางหลวงได้รับ เงินเดือน เดือน ละ 8,310 บาท มี ความ สามารถ ที่ จะ ชำระหนี้ ได้
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า จำเลย รับ ราชการ อยู่ ที่ กองวิเคราะห์ และ วิจัยกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้รับ เงินเดือน เดือน ละ 8,630 บาทและ ยัง มี ที่ดิน ตาม โฉนด ที่ดิน เอกสาร หมาย ล. 19 โดย ถือ กรรมสิทธิ์ร่วม กับ นาง นิตยา ด้วย แม้ ที่ดิน แปลง ดังกล่าว จะ ติด จำนอง ธนาคาร ทหารไทย จำกัด อยู่ ใน วงเงิน 1,300,000 บาท ทางพิจารณา ก็ ไม่ได้ ความ ว่า หนี้ จำนอง ดังกล่าว ท่วม ราคา ที่ดิน ที่ ติด จำนองและ ไม่ปรากฏ ว่า จำเลย เป็น หนี้ บุคคลอื่น ใด อีก ฉะนั้น แม้ จะ ฟัง ว่าจำเลย เป็น หนี้ โจทก์ จำนวน 55,000 บาท ตาม ที่ โจทก์ กล่าว ใน ฟ้องและ จำเลย ได้รับ หนังสือ ทวงถาม จาก โจทก์ ให้ ชำระหนี้ แล้ว สอง ครั้งซึ่ง มี ระยะเวลา ห่าง กัน ไม่ น้อยกว่า สามสิบ วัน อันเป็น ข้อสันนิษฐานว่า จำเลย มี หนี้สินล้นพ้นตัว แล้ว ก็ ตาม เห็นว่า จำเลย ยัง อยู่ ใน ฐานะที่ สามารถ ขวนขวาย หา เงิน มา ชำระหนี้ โจทก์ ได้ พฤติการณ์ แห่ง คดีมีเหตุ ที่ ยัง ไม่สมควร ให้ จำเลย ล้มละลาย ตาม พระราชบัญญัติ ล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 14
พิพากษายืน