คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 55/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คดีแจ้งความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่1และที่2ให้การแก่พนักงานสอบสวนว่าโจทก์ไปซื้อน้ำมันก๊าดจากจำเลยและจำเลยที่3ให้การว่าเห็นโจทก์เข้าร่วมประชุมในห้องทำงานของช. อันเป็นความเท็จทำให้โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนแต่ไม่ได้บรรยายว่าการแจ้งความดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอะไรอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์ถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนและถูกให้ออกและเป็นการแจ้งความเกี่ยวกับคดีอาญาฐานใดศาลไม่อาจเข้าใจหรือพอแปลความหมายได้ ฟ้องโจทก์ขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดอันจะพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองแม้จำเลยจะไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา137, 172, 174 วรรค 2, 83, 90, 91 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11พ.ศ. 2514 ข้อ 2
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งพิจารณาคดีนี้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามฐานแจ้งความอันเป็นเท็จ และแจ้งความอันเป็นเท็จต่อพนักงานสอบสวนเพื่อแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา แต่ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ที่ว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไปให้การแก่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธินว่า โจทก์ไปซื้อน้ำมัดก๊าดจากจำเลยทั้งสอง และว่าจำเลยที่ 3ไปให้การแก่พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาลเหนือว่า เห็นโจทก์เข้าร่วมประชุมในห้องทำงานของพันตำรวจตรีชุมพล คำกลิ่นอันเป็นความเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายโดยถูกควบคุมตัวถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้นไม่ปรากฏจากคำบรรยายฟ้องของโจทก์ว่า การแจ้งความของจำเลยดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องที่โจทก์ถูกควบคุมตัว ถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและถูกให้ออกจากราชการ และเป็นการแจ้งความเกี่ยวกับคดีอาญาฐานใด ศาลตรวจคำฟ้องแล้วก็ไม่อาจเข้าใจหรือพอแปลความได้ว่าเรื่องที่จำเลยแจ้งความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่โจทก์ถูกควบคุมตัว ถูกสอบสวนทางวินัยและถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนอย่างไรฟ้องของโจทก์จึงขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่แสดงให้เห็นว่าการแจ้งความของจำเลยเป็นความเท็จ อันพอจะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) และในเรื่องฟ้องไม่ถูกต้องนี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยทั้งสามไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เอง”
พิพากษายืนให้ยกฟ้องโจทก์.

Share