แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในคดีที่เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งเป็นพยานโจทก์เบิกความว่า ผู้ประสงค์เงินสินบนนำจับมาแจ้งว่าที่บ้านจำเลยลักลอบเล่นการพนัน ได้ระบุถึงผู้เล่นและเล่นอยู่ตรงไหนของตัวบ้าน เจ้าพนักงานตำรวจอีกผู้หนึ่งก็ได้สอบถามผู้มาแจ้ง ตามข้อเท็จจริงเช่นนี้ถือได้ว่าผู้ที่มาแจ้งนั้นเป็นผู้นำจับตามความในพระราชบัญญัติการพนันแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันเล่นการพนัน คดีมีผู้รับสินบนนำจับ ขอให้จ่ายสินบนและขอให้ลงโทษจำเลย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลแขวงอุบลราชธานีพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า จำเลยมีความผิด จำคุกและปรับ ๔ คน จำเลยอื่นปรับคนละ ๓๐๐ บาท ให้จำเลยทุกคนใช้เงินสินบนแก่ผู้นำจับกึ่งหนึ่งของจำนวนเงินค่าปรับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้ว่าพวกจำเลยลักเล่นการพนันโปกำ
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า ผู้แจ้งความนำจับไม่ได้นำจับเลย ศาลจะบังคับให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับไม่ได้ อ้างฎีกาที่ ๕๔๔/๒๔๘๐ นั้น ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ร้อยตำรวจโทบุญศรี พยานโจทก์เบิกความว่า ผู้ประสงค์เงินสินบนนำจับมาแจ้งว่าที่บ้านนายผดุงลักลอบเล่นการพนัน ได้ระบุถึงผู้เล่นและเล่นอยู่ตรงไหนของตัวบ้าน ผู้แจ้งบอกให้เข้าทางหลังบ้าน พันตำรวจโทกรีพลก็ได้สอบถามผู้มาแจ้ง ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงถือได้ว่าผู้ที่มาแจ้งนั้นเป็นผู้นำจับตามความในพระราชบัญญัติการพนันแล้ว คำพิพากษาฎีกาที่จำเลยอ้างข้อเท็จจริงต่างกับคดีนี้
พิพากษายืน.