แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่ากรมสรรพากรจำเลยนำยึดที่ดินประกาศขายทอดตลาดเพื่อนำเงินไปชำระค่าภาษีอากรที่ ช. ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของรวมในที่ดินค้างชำระแก่จำเลย แม้ที่ดินตามโฉนดดังกล่าวเป็นถนนที่โจทก์และประชาชนทั่วไปใช้ประโยชน์ผ่านเข้าออกสู่ถนนสาธารณะมาตั้งแต่ พ.ศ. 2497 ก็ตาม แต่ตราบใดที่จำเลยยังไม่ได้ปิดกั้นถนนโจทก์และประชาชนทั่วไปก็คงใช้ถนนได้ตามปกติหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งยังไม่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้เพิกถอนการยึดทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมที่ดินโฉนดที่ 935 ตำบลท่าทรายอำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เนื้อที่ 19 ไร่ 96 ตารางวามีเจ้าของรวม 25 คน ต่อมา พ.ศ. 2497 เจ้าของรวมได้แบ่งแยกที่ดินดังกล่าวเป็น 27 แปลงคิดเป็นเนื้อที่ 15 ไร่ 98 ตารางวาส่วนที่ดินที่เหลืออีก 3 ไร่ 1 งาน 4 ตารางวา ได้จัดทำเป็นถนน2 สาย เพื่อใช้เป็นถนนสาธารณประโยชน์โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ดิน 14977 เนื้อที่ 2 งาน 54 ตารางวา ซึ่งแบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดที่ 935 และประชาชนทั่วไปได้ใช้ที่ดินโฉนดที่ 935ส่วนที่เป็นถนนสาธารณประโยชน์ผ่านเข้าออกสู่ถนนติวานนท์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2497 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2532 จำเลยได้ทำการยึดทรัพย์ที่ดินโฉนดที่ 935 เนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน 4 ตารางวา ส่วนที่เป็นถนนสาธารณประโยชน์และประกาศขายทอดตลาด เพื่อนำเงินไปชำระภาษีอากรที่นายชื่น เลื่อมอุไทย ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของรวมในที่ดินดังกล่าวค้างชำระแก่จำเลย โจทก์กับพวกได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อจำเลยแล้ว แต่จำเลยก็ยังดำเนินการประกาศขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวต่อไป ขอให้เพิกถอนการยึดทรัพย์และการขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าว
จำเลยให้การว่า ที่ดินที่จำเลยยึดไว้เป็นกรรมสิทธิ์ของนายชื่น เลื่อมอุไทย กับพวก ไม่ใช่ถนนสาธารณประโยชน์และนายชื่นยังค้างชำระภาษีอากรจำนวน 1,303,518 บาท จำเลยจึงได้ทำการยึดที่ดินดังกล่าวโดยอาศัยอำนาจตามประมวลรัษฎากรมาตรา 12 จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ถูกยึด จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และโจทก์กับพวกไม่เคยได้รับสิทธิโดยชอบให้ใช้ที่ดินดังกล่าว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนการยึดที่ดินโฉนดที่ 935ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เนื้อที่ 3 ไร่1 งาน 4 ตารางวา จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์ว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้เพราะจำเลยนำยึดที่ดินโฉนดที่ 935 เนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน4 ตารางวา ประกาศขายทอดตลาดเพื่อนำเงินไปชำระค่าภาษีอากรที่นายชื่น เลื่อมอุไทย ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของรวมในที่ดินแปลงดังกล่าวค้างชำระแก่จำเลย แต่ที่ดินตามโฉนดดังกล่าวเป็นถนนที่โจทก์และประชาชนทั่วไปใช้ประโยชน์ผ่านเข้าออกสู่ถนนติวานนท์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2497 ศาลฎีกาเห็นว่า ตราบใดที่จำเลยยังไม่ได้ปิดกั้นถนน โจทก์และประชาชนทั่วไปก็คงใช้ถนนได้ตามปกติหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งยังไม่มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเมื่อข้อเท็จจริงตามคำฟ้องได้ความว่าโจทก์ยังไม่ได้ถูกจำเลยโต้แย้งสิทธิโจทก์ก็ฟ้องจำเลยไม่ได้ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและพิพากษายกฟ้องศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน