คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5473/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นิติกรรมที่เป็นโมฆะนั้นกฎหมายมิได้บัญญัติถึงการให้คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิมคู่กรณีจะมีสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งนิติกรรมหรือสัญญาอย่างใดเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาตามลักษณะลาภมิควรได้อีกชั้นหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่16942 ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม จำเลยตกลงขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ โจทก์ได้ชำระมัดจำไปแล้ว ตกลงจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เมื่อชำระราคาครบถ้วน ต่อมาโจทก์ชำระเงินให้จำเลยอีกบางส่วน และโจทก์ติดต่อให้จำเลยรับชำระเงินส่วนที่เหลือพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 16942 ให้โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า การซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะและโจทก์ไม่มีสิทธิยึดโฉนดที่ดินไว้ ขอให้ยกฟ้องและบังคับให้โจทก์ส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 16942 คืนแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยมอบโฉนดที่ดินให้โจทก์เนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินดังกล่าว จึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่16942 ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม คืนจำเลยในสภาพเรียบร้อย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ว่าจำเลยไม่มีเหตุต้องคืนเงินให้โจทก์เพราะจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ไปแล้ว 100,000 บาท เป็นการไม่ถูกต้องนั้นปัญหาข้อนี้สืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เมื่อสัญญาเป็นโมฆะคู่กรณีต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมจำเลยก็ต้องคืนเงินให้โจทก์ศาลฎีกาเห็นว่า นิติกรรมที่เป็นโมฆะนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติถึงการให้คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม คู่กรณีจะมีสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งนิติกรรมหรือสัญญาอย่างใดเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาตามลักษณะลาภมิควรได้อีกชั้นหนึ่ง เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาและใช้ค่าเสียหายเท่านั้นการที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยต้องคืนเงินมัดจำแก่โจทก์จึงเป็นเรื่องนอกคำฟ้องและนอกประเด็น เช่นนี้ ปัญหาตามฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share