แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
อายุความไม่ใช่สภาพแห่งข้อหาตามป.วิ.พมาตรา172วรรคสองโจทก์จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวในฟ้องว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น นิติบุคคล ตาม กฎหมาย มี ฐานะ เป็น กรมใน รัฐบาล สำนักงาน การ ประถมศึกษา จังหวัด นราธิวาส เป็น หน่วยราชการ หนึ่ง ของ โจทก์ ขณะ เกิดเหตุ จำเลย ที่ 1 รับ ราชการ ตำแหน่งผู้อำนวยการ การ ประถมศึกษา จังหวัด นราธิวาส และ เป็น ผู้บังคับบัญชาของ จำเลย ที่ 2 ถึง ที่ 8 จำเลย ที่ 2 รับ ราชการ ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ การ ประถมศึกษา จังหวัด นราธิวาส จำเลย ที่ 3 รับ ราชการตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ บริหาร การเงิน และ บัญชี 5 สำนักงาน การ ประถมศึกษาจังหวัด นราธิวาส จำเลย ที่ 4 รับ ราชการ ตำแหน่ง ครู 1 ระดับ 1สังกัด สำนักงาน การ ประถมศึกษา จังหวัด นราธิวาส จำเลย ที่ 5 รับ ราชการตำแหน่ง ครูใหญ่ โรงเรียน นิคมพัฒนา 7 จำเลย ที่ 6 รับ ราชการ ตำแหน่ง อาจารย์ 1 โรงเรียน บ้านโนนสมบูรณ์ จำเลย ที่ 7 รับ ราชการ ตำแหน่ง อาจารย์ 1 รักษา การ ตำแหน่ง ครูใหญ่ โรงเรียน บ้านน้ำใส จำเลย ที่ 8รับ ราชการ ตำแหน่ง หัวหน้า การ ประถมศึกษา อำเภอ สุคิริน จังหวัด นราธิวาส จำเลย ที่ 6 ที่ 7 และ ที่ 8 ได้รับ แต่งตั้ง เป็นคณะกรรมการ ควบคุม การ ตรวจ การจ้าง ก่อสร้าง อาคาร เรียน โรงเรียน นิคมพัฒนา 4 กิ่งอำเภอสุคิริน จังหวัด นราธิวาส เมื่อ วันที่ 23สิงหาคม 2526 สำนักงาน การ ประถมศึกษา จังหวัด นราธิวาส โดย จำเลย ที่ 1ผู้รับมอบอำนาจ ได้ ตกลง ทำ สัญญาจ้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. ศุภลักษณ์นราธิวาส ทำการ ก่อสร้าง อาคาร เรียน โรงเรียน นิคมพัฒนา 4 แล้ว เสร็จ ภายใน วันที่ 20 เมษายน 2527 หาก ผู้รับจ้าง ส่งมอบ งาน ล่าช้า กว่า กำหนด แต่ ผู้ว่าจ้าง ยัง ไม่ บอกเลิก สัญญาผู้รับจ้าง ยอม ให้ ผู้ว่าจ้าง ปรับ เป็น รายวัน นับแต่ วัน ล่วงเลยกำหนด วัน แล้ว เสร็จ ตาม สัญญา จน ถึง วันที่ งาน เสร็จ บริบูรณ์ ต่อมาวันที่ 3 เมษายน 2527 ซึ่ง อยู่ ใน ระหว่าง อายุ สัญญาจ้าง ผู้รับจ้างได้ ทำ หนังสือ ถึง จำเลย ที่ 8 ขอ ต่อ อายุ สัญญา ออก ไป อีก 150 วัน นับแต่วันที่ 29 เมษายน 2527 เป็นต้น ไป โดย อ้าง เหตุ ว่า ฝนตก หนักไม่สามารถ ขน วัสดุ ก่อสร้าง เข้า ไป บริเวณ ที่ ก่อสร้าง ได้ จำเลย ที่ 6ที่ 7 และ ที่ 8 ได้ ทำ หนังสือ ถึง จำเลย ที่ 1 แจ้ง ข้อเท็จจริง ประกอบการ พิจารณา ต่อ อายุ สัญญาจ้าง ของ ผู้รับจ้าง จำเลย ที่ 4 ทำ เรื่อง เสนอจำเลย ที่ 3 ที่ 2 และ ที่ 1 ตามลำดับ จำเลย ที่ 1 พิจารณา แล้วอนุมัติ ให้ มี การ ต่อ อายุ สัญญา ออก ไป 100 วัน นับแต่ วันที่ 30 เมษายน2527 ผู้รับจ้าง ดำเนินการ ก่อสร้าง อาคาร เรียน แล้ว เสร็จ บริบูรณ์เมื่อ วันที่ 2 สิงหาคม 2527 หลังจาก ครบ กำหนด แล้ว 95 วัน การ ที่จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 8 ได้ ร่วมกัน พิจารณา ต่อ อายุ สัญญา ให้ แก่ผู้รับจ้าง ดังกล่าว เป็น การ จงใจ หรือ ประมาท เลินเล่อ ทำให้ โจทก์ได้รับ ความเสียหาย อันเป็น การ ละเมิด ต่อ โจทก์ เนื่องจาก จำเลยทั้ง แปด ไม่ปฏิบัติ ตาม ระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วย การ พัสดุพ.ศ. 2521 และ ฝ่าฝืน มติ คณะรัฐมนตรี ตาม หนังสือ กรม สารบรรณคณะรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ที่ นว.165/2500 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2500ซึ่ง ห้าม มิให้ หน่วย ราชการ ผู้ว่าจ้าง ต่อ อายุ สัญญา ให้ แก่ ผู้รับจ้างด้วย ข้ออ้าง เหตุ เกี่ยวกับ ฤดูกาล ดิน ฟ้า อากาศ หรือ ภูมิ ประเทศที่ เป็น อยู่ ตาม ธรรมชาติ และ เป็น ปกติ ท้องถิ่น ทำให้ โจทก์ ไม่สามารถเรียก ค่าปรับ รายวัน ตาม สัญญา จาก ผู้รับจ้าง ได้ เป็นเหตุ ให้ โจทก์เสียหาย ขอให้ บังคับ จำเลย ที่ 1 ถึง ที่ 8 ร่วมกัน ชดใช้ ค่าเสียหายจำนวน 109,044.38 บาท พร้อม ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ เจ็ด ครึ่งต่อ ปี ของ ต้นเงิน จำนวน 76,000 บาท นับแต่ วันฟ้อง เป็นต้น ไป จนกว่าจะ ชำระ เสร็จ แก่ โจทก์
จำเลย ทั้ง แปด ให้การ ว่า จำเลย ทั้ง แปด ไม่ได้ กระทำ ละเมิดต่อ โจทก์ โจทก์ มิได้ ฟ้องคดี นี้ ภายใน กำหนด เวลา 1 ปี นับแต่รู้ ถึง เรื่อง ละเมิด และ รู้ตัว ผู้จะพึง ต้อง ใช้ ค่าสินไหมทดแทนฟ้อง ของ โจทก์ ขาดอายุความ ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น เห็นว่า คดี พอ วินิจฉัย ได้ แล้ว จึง มี คำสั่ง ให้ งดสืบพยานโจทก์ และ จำเลย และ วินิจฉัย ว่า มูลละเมิด เกิด เมื่อ วันที่15 พฤษภาคม 2527 แต่ โจทก์ ฟ้องคดี เรียก ค่าเสียหาย ใน วันที่ 24พฤษภาคม 2533 เป็น เวลา เกิน 1 ปี โดย มิได้ บรรยาย ถึง วันที่ โจทก์ตรวจ พบ ถึง การ ละเมิด และ มิได้ บรรยาย ถึง เหตุ ที่ โจทก์ มีสิทธิ ฟ้องคดีดังกล่าว ได้ คดี โจทก์ จึง ขาดอายุความ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 448 พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ ฎีกา โดย ผู้พิพากษา ซึ่ง ลงชื่อ ใน คำพิพากษา ศาลชั้นต้นรับรอง ให้ ฎีกา ใน ข้อเท็จจริง ได้
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า เรื่อง อายุความ ไม่ใช่ สภาพแห่งข้อหาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง โจทก์จึง ไม่จำเป็น ต้อง กล่าว ใน ฟ้อง ว่า คดี โจทก์ ไม่ขาดอายุความ เพราะ เหตุใดคดี นี้ ฟ้องโจทก์ ได้ ระบุ โดยชัดแจ้ง ซึ่ง สภาพแห่งข้อหา และ คำขอบังคับแล้ว จึง เป็น ฟ้อง ที่ สมบูรณ์ เมื่อ จำเลย ให้การ ต่อสู้ คดี จึง ชอบ ที่ศาล จะ ต้อง ดำเนิน กระบวนพิจารณา ต่อไป โดย สืบพยาน หลักฐาน ตาม ประเด็นข้อพิพาท แล้ว พิจารณา พิพากษา ตาม รูปคดี ที่ ศาลล่าง ทั้ง สอง มี คำสั่งให้ งดสืบพยาน โจทก์ จำเลย และ พิพากษายก ฟ้องโจทก์ มา นั้น ศาลฎีกาไม่เห็น พ้อง ด้วย ฎีกา ของ โจทก์ ฟังขึ้น
พิพากษายก คำพิพากษา ศาลล่าง ทั้ง สอง ให้ ศาลชั้นต้น ดำเนินกระบวนพิจารณา ต่อไป แล้ว พิพากษา ใหม่ ตาม รูปคดี