แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องแพ่งแล้วขาดนัดชั้นพิจารณาโดยเข้าใจวันพิจารณาโดยเข้าใจวันพิจารณาผิดไปและศาลสั่งจำหน่ายคดีเสียนั้นก็ยังคงเป็นเหตุให้อายุความสดุดหยุดลง
ย่อยาว
คดีนี้ได้ความว่าเดิมโจทก์ฟ้องจำเลยฐานบุกรุกและขอให้ศาลแสดงว่าอะเลอรับน้ำเป็นของโจทก์ห้ามมิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้องเป็นคดีแพ่งและอาญาปนกันเมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๔๘๑ แต่โจทก์ขาดนักพิจารณาศาลพิพากษายกฟ้องในส่วนอาญา แต่ในส่วนแพ่งให้จำหน่ายคดีเสียเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๘๒ รุ่งขึ้นอีก ๒ วันคือ ในวันที่ ๒๒ เดือนเดียวกันนั้นโจทก์จึงมาฟ้องเป็นคดีนี้
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีโจทก์ขาดอายุความจามประมวลแพ่ง ฯ ม.๑๓๗๕,๑๗๔ และประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๕๑ วรรค ๔ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการขาดนัดชั้นพิจารณาหาได้ชื่อว่าจะทิ้งคดีไม่ การที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีไว้อายุความสดุดหยุดลง คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ พิพากษากลับศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าแม้โจทก์จะมีเพียงสิทธิครอบครองในอะเลอรับน้ำซึ่งมีอายุความฟ้องร้องภายใน ๑ ปีก็ตาม คดีโจทก์ก็ไม่ขาดอายุความเพราะโจทก์ได้ฟ้องคดีก่อนภายใน ๑ ปี และการที่โจทก์ขาดนัดและศาลสั่งจำหน่ายคดีนั้น โจทก์ไม่มีเจตนาละทิ้ง ที่โจทก์ขาดนัดเพราะเข้าใจวันพิจารณาผิดไป เมื่อโจทก์ฟ้องคดีแล้วอายุความก็สดุดหยุดลง จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์