คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5448/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์และยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง จำเลยทั้งสามทราบวันนัดไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้วไม่มาศาล และไม่ขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ให้งดสืบพยานจำเลย เมื่อจำเลยไม่นำพยานมาสืบจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนอนาถา ให้จำเลยทั้งสามนำค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายใน 15 วันนั้น เท่ากับศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคำร้องของจำเลยทั้งสามแล้วว่า จำเลยทั้งสามไม่ใช่คนอนาถา จะใช้สิทธิดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไม่ได้ เมื่อจำเลยทั้งสามอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยทั้งสาม คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ย่อมเป็นที่สุดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคท้าย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยโดยให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 ร่วมรับผิดชำระเงินบางส่วน
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์และยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง ถึงวันนัดผู้รับมอบฉันทะทนายจำเลยทั้งสามยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายความของจำเลยทั้งสาม จำเลยทั้งสามไม่ค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาตแล้วมีคำสั่งว่าจำเลยทั้งสามทราบวันนัดไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้วไม่มาศาล และไม่ร้องขอเลื่อนคดี ให้งดสืบพยานจำเลย ส่วนโจทก์รับสำเนาคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาแล้วไม่มาศาลและไม่ยื่นคำคัดค้านภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจคัดค้านคดีไม่จำต้องไต่สวนพยานหลักฐานจำเลยและพยานหลักฐานโจทก์ต่อไปและเมื่อจำเลยทั้งสามไม่นำพยานมาสืบจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนอนาถา ให้จำเลยทั้งสามนำค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ถือว่าจำเลยทั้งสามได้ทราบคำสั่ง
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์คำสั่งว่า ในวันนัดไต่สวนคำร้องดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนายและยังไม่ได้แต่งตั้งทนายความคนใหม่ ศาลควรให้โอกาสแก่จำเลยทั้งสามแต่งตั้งทนายเข้ามาดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เพื่อไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสาม
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยทั้งสาม คืนค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์คำสั่งทั้งหมด หากจำเลยทั้งสามประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปให้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยทั้งสามทราบวันนัดไต่สวนคำร้องโดยชอบแล้วไม่มาศาล และไม่ร้องขอเลื่อนคดี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ให้งดสืบพยานจำเลย เมื่อจำเลยไม่นำพยานมาสืบจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสามเป็นคนอนาถา ให้จำเลยทั้งสามนำค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์มาวางศาลภายใน 15 วันนั้น เท่ากับศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยในเนื้อหาแห่งคำร้องของจำเลยทั้งสามแล้วว่า จำเลยทั้งสามไม่ใช่คนอนาถาจะใช้สิทธิดำเนินคดีอย่างคนอนาถาไม่ได้ เมื่อจำเลยทั้งสามอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยทั้งสาม คำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยทั้งสามไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของจำเลยทั้งสามมานั้นจึงไม่ชอบ”
พิพากษายกฎีกาของจำเลยทั้งสาม

Share