แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยค้างชำระค่าเช่าซึ่งตกลงชำระกันเป็นรายเดือนโจทก์จะต้องบอกกล่าวให้จำเลยชำระค่าเช่าก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 วรรค 2 แต่โจทก์ไม่ได้บอกกล่าวให้จำเลยชำระค่าเช่าก่อนตามบทกฎหมายดังกล่าว โจทก์กลับให้ทนายความมีหนังสือบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยทีเดียว การบอกเลิกสัญญาของโจทก์จึงไม่มีผล สัญญาเช่ายังไม่ระงับ โจทก์ยังไม่มีสิทธิฟ้องขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหายจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินและบ้านพิพาทและเรียกค่าเช่าที่ค้างจำนวน ๑๓,๕๐๐ บาท กับค่าเสียหายเดือนละ ๓๐๐ บาท
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยค้างชำระค่าเช่า จำเลยไม่ได้ผิดสัญญาโจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา และโจทก์ไม่เคยบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าต่อจำเลย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยค้างชำระค่าเช่าประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๒๔ เป็นต้นมา ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยชำระค่าเช่าที่ค้าง โจทก์จึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า พิพากษาให้จำเลยชำระค่าเช่าเดือนสิงหาคม ๒๕๒๔ เป็นต้นไปจนถึงวันฟ้องในอัตราเดือนละ ๓๐๐ บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การบอกเลิกสัญญาของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยจึงระงับโดยการบอกเลิกสัญญา จำเลยไม่มีสิทธิอยู่ในที่ดินและบ้านพิพาท พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจาที่ดินและบ้านพิพาทให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๓๐๐ บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยและบริวารออกจากที่ดินและบ้านพิพาทนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาว่าโจทก์บอกเลิกสัญญาเช่าต่อจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมายสัญญาเช่าจึงยังไม่ระงับ
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ให้สามีจำเลยเช่าที่ดินและบ้านพิพาท มีกำหนด ๑๒ ปี ค่าเช่าเดือนละ ๓๐๐ บาท การเช่าได้ทำหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานที่ดินแล้ว ต่อมาสามีจำเลยถึงแก่กรรม จำเลยได้เช่าและชำระค่าเช่าให้โจทก์เรื่อยมาจนกระทั่งถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๒๔ จึงค้างชำระค่าเช่า โจทก์ให้ทนายความมีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าและให้ออกจากสถานที่เช่าภายในกำหนด ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ จำเลยได้รับหนังสือฉบับดังกล่าวแล้วแต่ไม่ยอมออก แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า มีปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่า การบอกเลิกสัญญาเช่าของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๖๐ วรรค ๒ บัญญัติว่า “แต่ถ้าค่าเช่านั้นจะพึงส่งเป็นรายเดือนหรือส่งเป็นระยะยาวกว่ารายเดือนขึ้นไป ผู้ให้เช่าต้องบอกกล่าวแก่ผู้เช่าก่อนว่าให้ชำระค่าเช่าภายในเวลาใด ซึ่งถึงกำหนดอย่าให้น้อยกว่าสิบห้าวัน” การเช่าระหว่างโจทก์จำเลยคดีนี้ ตกลงชำระค่าเช่าเป็นรายเดือน เมื่อจำเลยค้างชำระค่าเช่า โจทก์จะต้องบอกกล่าวให้จำเลยชำระค่าเช่าก่อน แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้บอกกล่าวให้จำเลยชำระค่าเช่าก่อนตามบทกฎหมายดังกล่าว โจทก์กลับให้ทนายความมีหนังสือบอกเลิกสัญญาแก่จำเลยทีเดียว การบอกเลิกสัญญาของโจทก์จึงไม่มีผลสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยจึงไม่ระงับ โจทก์ยังไม่มีสิทธิขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.