คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3483/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยพา บ.ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณี แม้ บ.จะยินยอมสมัครใจร่วมประเวณีกับจำเลย ก็ถือว่าจำเลยกระทำล่วงเกินภริยาโจทก์ไปในทำนองชู้สาว จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนให้โจทก์ และการที่จำเลยพาภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณีดังกล่าว ย่อมทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีได้รับความเสื่อมเสียทั้งด้านจิตใจเกียรติยศ และชื่อเสียง ซึ่งไม่อาจคิดเป็นราคาเงินได้ การกำหนดค่าทดแทนให้เพียงใดย่อมแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ฉุด บ. ภริยาโจทก์ไปข่มขืนและหน่วงเหนี่ยวกักขังไว้ในที่ต่าง ๆ เป็นเวลา ๓๐ วัน ต่อมาโจทก์จึงให้ตำรวจจับกุมจำเลยและช่วย บ. กลับคืนมาได้ โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทน ๑๒๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่า ภริยาโจทก์ยินยอมพร้อมใจร่วมประเวณีกับจำเลย โจทก์ไม่เสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าทดแทน ๕๐,๐๐๐ บาท แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๕ ที่ตรวจชำระใหม่ พ.ศ.๒๕๑๙ มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง บัญญัติว่า ” สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้…..” การที่จำเลยพา บ. ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นภริยาโจทก์ไปร่วมประเวณี แม้ บ. ภริยาโจทก์จะยินยอมสมัครใจร่วมประเวณีกับจำเลย ก็ถือว่าจำเลยกระทำล่วงเกินภริยาโจทก์ไปในทำนองชู้สาว จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนให้โจทก์ สำหรับปัญหาว่า จำเลยต้องชดใช้ค่าทดแทนให้โจทก์เพียงใดนั้น การที่จำเลยพา บ.ภริยาโจทก์ไปแล้วร่วมประเวณี ย่อมทำให้โจทก์ผู้เป็นสามีได้รับความเสื่อมเสียทั้งด้านจิตใจ เกียรติยศ และชื่อเสียง ซึ่งไม่อาจคิดเป็นราคาเงินได้ การกำหนดค่าทดแทนให้เพียงใดย่อมแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดี ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลยพินิจ กำหนดค่าทดแทนให้โจทก์ตามควรแก่พฤติการณ์แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลง
พิพากษายืน

Share