คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5429/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483ได้บัญญัติถึงวิธีการจัดกิจการและรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายไว้ตามมาตรา24และมาตรา22ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจเข้าจัดการได้เฉพาะทรัพย์สินของจำเลยที่3ซึ่งศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เท่านั้นหาได้มีอำนาจล่วงล้ำไปถึงการจัดการทรัพย์สินของบุคคลอื่นไม่ห้างหุ้นส่วนจำกัดพ.ซึ่งเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากจำเลยที่3มิได้เป็นลูกหนี้ผู้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์หรือเป็นบุคคลล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจำกัดพ.ได้แม้จำเลยที่3จะมีสิทธิได้รับแบ่งคืนทรัพย์สินของห้างหุ้นจำกัดพ. ก็เป็นเรื่องที่มีมาภายหลังเพียงเท่าที่ไม่ต้องเอาไว้ใช้ในการชำระหนี้ของห้างหุ้นส่วนนั้นเท่านั้นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1269เหตุนี้จึงมิได้เกี่ยวข้องกับกองทรัพย์สินของจำเลยที่3ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ร้องขอเป็นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดพ.จึงชอบแล้ว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามเป็นบุคคลล้มละลาย จำเลยที่ 3 ได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อพิพากษาให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.ที.แทร็คเตอร์ล้มละลายตามจำเลยที่ 3ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 3 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.ที.แทร็คเตอร์ ซึ่งไม่ได้ประกอบกิจการมาตั้งแต่ก่อนจำเลยที่ 3 ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ทั้งที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและเครื่องจักร 80 เครื่อง ของห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ ได้จำนองไว้แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัดเมื่อห้างหุ้นส่วนพี.ที.แทร็คเตอร์ไม่สามารถดำเนินกิจการหรือขอเลิกห้างหุ้นส่วนได้ เนื่องจากจำเลยที่ 3 และที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดอีกคนหนึ่งตกเป็นบุคคลล้มละลายในคดีนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ ต่อไปแทนจำเลยที่ 3 โดยจะต้องร้องขอเป็นผู้ชำระบัญชีในฐานที่เป็นผู้มีอำนาจจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 เพราะทรัพย์สินของห้างดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงมีหน้าที่ต้องดำเนินการจำเลยที่ 3 และเมื่อชำระบัญชีเสร็จก็ให้ยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อพิพากษาให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ ล้มละลายตามจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ 3 จึงไม่ชอบ ขอให้มีคำสั่งกลับคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการแทนจำเลยที่ 3 โดยยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเป็นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ และร้องขอต่อศาลให้ล้มละลายตามจำเลยที่ 3 ต่อไปศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.ที.แทร็คเตอร์ จะเป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเป็นบุคคลมีหนี้สินล้นพ้นตัวตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ใช่ว่าหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนล้มละลายแล้ว ห้างหุ้นส่วนจะต้องเป็นบุคคลล้มละลายไปด้วย กรณีตามคำร้องไม่มีกฎหมายรับรองสิทธิของจำเลยที่ 3 ที่จะกระทำได้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์วินิจฉัยไว้ชอบแล้ว ยกคำร้อง
จำเลย ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยที่ 3เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดและเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ จำเลยที่ 3 ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 3 ว่า การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ร้องขอเป็นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.ที.แท็คเตอร์ เป็นการไม่ชอบหรือไม่จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ได้จดทะเบียนจำนองทรัพย์สินไว้แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัด โดยจำเลยที่ 3 เป็นผู้ค้ำประกันในฐานะส่วนตัวด้วย การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่เข้าจัดการทรัพย์สินและไม่ร้องขอให้ศาลตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นผู้ชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ ทำให้กองทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 ต้องเสียหายเพราะต้องรับภาระหนี้สินดอกเบี้ยต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าราคาทรัพย์สินที่จำนองไว้ เห็นว่าพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483ได้บัญญัติถึงวิธีการจัดกิจการและรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ผู้ล้มละลายไว้ตามมาตรา 24 ว่า “เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือกิจการของตนเว้นแต่จะได้กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาลเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้จัดการทรัพย์ หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้” และมาตรา 22 ว่า “เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจ ดังต่อไปนี้ (1) จัดการจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป(2) เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้หรือซึ่งลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น ฯลฯ” จากบทบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติไว้อย่างชัดแจ้งว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจเข้าจัดการได้เฉพาะทรัพย์สินของลูกหนี้คือจำเลยที่ 3 เท่านั้น หาได้มีอำนาจล่วงล้ำไปถึงการจัดการทรัพย์สินของบุคคลอื่นไม่ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี.ที.แทร็คเตอร์ซึ่งเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากจำเลยที่ 3 มิได้เป็นลูกหนี้ผู้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์หรือเป็นบุคคลล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์จึงไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ ได้ แม้จำเลยที่ 3จะมีสิทธิได้รับแบ่งคืนทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ก็เป็นเรื่องที่มีมาภายหลังเพียงเท่าที่ไม่ต้องเอาไว้ใช้ใช้ในการชำระหนี้ของห้างหุ้นส่วนนั้นเท่านั้น ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1269 เห็นนี้จึงมิได้เกี่ยวข้องกับกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ร้องขอเป็นผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ ตามคำร้องของจำเลยที่ 3 จึงชอบแล้วเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนจำกัดพี.ที.แทร็คเตอร์ ดังวินิจฉัยมาแล้วปัญหาอื่นตามฎีกาของจำเลยที่ 3 จึงไม่จำต้องวินิจฉัยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน

Share