แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์รับจ้างซ่อมเครื่องถ่ายเอกสารให้บริษัท ส.ต่อมาโจทก์ได้ให้ น. ลูกจ้างโจทก์ไปรับเงินค่าซ่อมเครื่องถ่ายเอกสารจากบริษัท ส. น. ไปพบจำเลยซึ่งนั่งอยู่ที่ห้องฝ่ายการเงิน จำเลยให้ น. ลงชื่อในเอกสารเพื่อรับเช็คแล้วจำเลยไม่ยอมส่งมอบเช็คให้แก่ น. โดยอ้างว่าจำเลยจะติดต่อโจทก์เอง ดังนี้ แม้เช็คพิพาทเป็นเช็คที่บริษัท ส. ออกให้เพื่อชำระค่าซ่อมเครื่องถ่ายเอกสารให้แก่โจทก์ก็ตามแต่จำเลยยังไม่ได้ส่งมอบเช็คให้โจทก์อีกทั้ง น. ลูกจ้างของโจทก์ ก็ยังไม่ได้เข้ายึดถือครอบครองเอาเช็คพิพาทไว้ โจทก์จึงยังไม่เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบต้องถือว่ากรรมสิทธิ์ในเช็คพิพาทยังอยู่ในความครอบครองของ บริษัท ส.การที่จำเลยให้ น.ลงชื่อในเอกสารว่าได้รับเช็คพิพาทแต่จำเลยก็ยึดถือเช็คพิพาทไว้ ไม่ส่งมอบให้น.ตัวแทนโจทก์ก็ยังไม่ถือว่าการครอบครองในเช็คพิพาทได้ผ่านมือไปยังโจทก์โดยแท้จริงแน่นอน เพราะเช็คพิพาทยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ส.ซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยอยู่ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการเอาทรัพย์ ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริตจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ของโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 21กรกฎาคม 2538 โจทก์ได้รับจ้างซ่อมเครื่องถ่ายเอกสารให้บริษัทสามัคคีสาร (ดอกหญ้า) จำกัด ต่อมาวันที่ 6 ตุลาคม2538 โจทก์โดยนายวิชัย อนันต์ตระการกิจ หุ้นส่วนผู้จัดการได้ให้นางสาวนพเกล้า ลับไพรี ลูกจ้างโจทก์ไปรับเงินค่าซ่อมเครื่องถ่ายเอกสารจากบริษัทสามัคคีสาร (ดอกหญ้า) จำกัดนางสาวนพเกล้าไปพบจำเลยซึ่งนั่งอยู่ที่ห้องฝ่ายการเงินจำเลยให้นางสาวนพเกล้าลงชื่อในเอกสารเพื่อรับเช็คครั้นนางสาวนพเกล้าลงชื่อในเอกสารรับเช็คแล้ว จำเลยไม่ยอมส่งมอบเช็คให้แก่นางสาวนพเกล้าโดยอ้างว่าจำเลยจะติดต่อโจทก์เอง เช็คที่บริษัทสามัคคีสาร (ดอกหญ้า) จำกัดจะมอบให้นางสาวนพเกล้ารับไปนั้นเป็นเช็คธนาคารไทยพาณิชย์(มหาชน) จำกัด สาขาตรีเพชร เลขที่ 2624969 ลงวันที่ 13ตุลาคม 2538 สั่งจ่ายเงิน 61,276.80 บาท
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คดีของโจทก์มีมูลที่จะฟ้องร้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 หรือไม่ เห็นว่า แม้เช็คพิพาทเป็นเช็คที่บริษัทสามัคคีสาร (ดอกหญ้า) จำกัด ออกให้เพื่อชำระค่าซ่อมเครื่องถ่ายเอกสารให้แก่โจทก์ แต่ยังไม่ได้ส่งมอบเช็คให้โจทก์อีกทั้งนางสาวนพเกล้า ลูกจ้างของโจทก์ก็ยังไม่ได้เข้ายึดถือครอบครองเอาเช็คพิพาทไว้แต่อย่างใด จึงยังไม่เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบ ต้องถือว่ากรรมสิทธิ์ในเช็คพิพาทยังอยู่ในความครอบครองของบริษัทสามัคคีสาร (ดอกหญ้า) จำกัดการที่จำเลยให้นางสาวนพเกล้าลงชื่อในเอกสารว่าได้รับเช็คพิพาทแต่จำเลยก็ยึดถือเช็คพิพาทไว้ไม่ส่งมอบให้นางสาวนพเกล้าตัวแทนโจทก์ก็ยังไม่ถือว่าการครอบครองในเช็คพิพาทได้ผ่านมือไปยังโจทก์โดยแท้จริงแน่นอน เพราะเช็คพิพาทหรือทรัพย์ดังกล่าวยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทสามัคคีสาร (ดอกหญ้า) จำกัด ซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยอยู่ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริตจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ตามที่โจทก์ฟ้อง
พิพากษายืน