คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2961/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยปลอมใบส่งของอันเป็นเอกสารสิทธิ โดยกล่าวถึงรายละเอียดในการปลอม แต่มิได้บรรยายว่าใบส่งของนั้นเป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลงโอน สงวน หรือระงับ ซึ่งสิทธิระหว่างผู้ส่งของกับผู้รับของอย่างไรบ้าง ดังนี้ การกระทำของจำเลยตามที่บรรยายมาไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย ได้รับมอบหมายจากผู้เสียหายให้ขับรถยนต์บรรทุกทราบไปส่งให้แก่บริษัท ท. เมื่อจำเลยได้รับทราบแล้วจำเลยได้บังอาจเบียดบังยักยอกเอาทรายของผู้เสียหายดังกล่าว ไปขายเป็นประโยชน์ของจำเลยโดยทุจริต และจำเลยได้บังอาจปลอมใบส่งของอันเป็นเอกสารสิทธิ โดยจำเลยปลอมลายมือชื่อลูกจ้างผู้มีชื่อผู้มีหน้าที่ลงนามรับสิ่งของของบริษัท ท. เซ็นลงในช่องผู้ตรวจรับในใบส่งของ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน เพื่อให้ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๔, ๒๖๔, ๓๕๒, ๙๑ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๒
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ใบส่งของที่จำเลยปลอมไม่ใช่เอกสารสิทธิ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๖ สามกระทง จำคุกกระทงละ ๒ เดือน และมีความผิดฐานปลอมเอกสารตามมาตรา ๒๖๔ อีกกระทงหนึ่ง จำคุก ๖ เดือน รวมจำคุก ๑๒ เดือน จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก ๖ เดือน ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมเอกสารสิทธิด้วย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำฟ้องและคำให้การรับสารภาพว่า จำเลยได้บังอาจปลอมใบส่งของคืนใบส่งทราบซึ่งจำเลยได้รับหมายจากผู้เสียหายให้เอาไปส่งให้แก่บริษัท ท. โดยจำเลยปลอมลายมือชื่อลูกจ้างของบริษัท ท.ผู้มีหน้าที่เซ็นรับทราบตามใบส่งของนั้น แล้วจำเลยเบียดบังเอาทรายตามใบส่งของนั้นไปขายเป็นประโยชน์ของจำเลยเสียโดยทุจริต เห็นว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวแม้มีเจตนาเพื่อให้ผู้เสียหายเชื่อว่าใบส่งของตามฟ้องเอกสารที่ถูกต้องแท้จริง เป็นหลักฐานที่แสดงว่าบริษัท ท. ได้รับทรายตามใบส่งของนั้นแล้วก็ตาม แต่คำฟ้องของโจทก์มิได้บรรยายให้ปรากฏถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับใบส่งของจำเลยปลอมนี้เลยว่าเป็นเอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิระหว่างผู้เสียหายกับบริษัท ท.อย่างไรบ้าง ที่โจทก์ฎีกาว่า โจทก์ได้บรรยายฟ้องถึงข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับใบส่งของทอที่จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของผู้เสียหายจะเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ขายส่งทรายได้ออกใบส่งของไปให้บริษัท ท. ผู้รับซื้อโดยให้จำเลยนำไปมอบให้ ถ้าบริษัท ท. ผู้ซื้อเซ็นรับทรายในใบส่งของแล้วผู้เสียหายก็มีสิทธิเรียกเก็บเงินจากผู้ซื้อเป็นการก่อให้เกิดหนี้สินและสิทธิเรียกร้องจากกันแล้ว เป็นเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔ (๙) นั้น ข้อเท็จจริงที่ว่าเป็นใบส่งของเกี่ยวกับการซื้อขายทรายกันตามที่โจทก์ฎีกามานี้ไม่มีปรากฏในคำฟ้องของโจทก์ การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องคงมีความผิดฐานปลอมเอกสารธรรมดาเท่านั้น ไม่ผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๖๕
พิพากษายืน

Share