คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 541/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวต่อสามเณรสองรูป ซึ่งหน้าเพราะเหตุที่ใช้ไปขอเทียนจากพระภิกษุรูปหนึ่งไม่ได้ ว่า “ถ้าไม่ไปเดี๋ยวกูจะเตะลงกุฎิให้หมด” นั้น เป็นถ้อยคำที่จำเลยกล่าวแก่บุคคลที่ประชาชนทั่วไปถือว่าควรเคารพกว่าบุคคลธรรมดา ฉะนั้น จึงไม่แต่เพียงจะเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพและข่มขู่เท่านั้น หากเป็นการดูหมิ่นตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ด้วย
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 12/2504

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า
ก.จำเลยได้ใช้สามเณรอุดมไปขอเทียนจากพระภิกษุนาคสามเณรอุดมว่าไม่มี จำเลยได้บังอาจหมิ่นประมาทใส่ความพระภิกษุนาคโดยกล่าววาจาต่อหน้าสามเณรอุดมและคนอื่นว่า “ถ้าไม่ไปบอกพระภิกษุนาคมาหากูไป๊ กูจะเตะพระนาคให้คอขาด” การกระทำของจำเลยเป็นการที่น่าจะทำให้พระภิกษุนาคเสียชื่อเสียงและถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
ข.จำเลยได้บังอาจกล่าววาจาดูหมิ่นสามเหณรอุดมและสามเณรโสภณซึ่งหน้าเพราะเหตุที่ใช้ไปขอเทียนจากพระภิกษุนาคไม่ได้ ว่า “ถ้าใช้ไม่ได้หย้วน (ใช้ไม่ไป) ให้สูไปอยู่วัดอื่น เดี๋ยวกูจะเตะลงกุฏิให้หมด” ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖,๓๙๓,๙๑
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำกล่าวของจำเลยเป็นแต่เพียงถ้อยคำไม่สุภาพและข่มขู่บ้างเท่านั้น ไม่เป็นความผิด จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า
ตามฟ้องข้อ ก. ที่ว่าจำเลยหมิ่นประมาทพระภิกษุนาคนั้น ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวไม่ใช่เป็นคำใส่ความอันจะทำให้พระภิกษุนาคเสียชื่อเสียหรือถูกดูหมิ่นเกลียดชังอย่างไร คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๐๒/๒๔๙๖ ที่โจทก์อ้างเป็นเรื่องที่ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ถ้อยคำที่เป็นหมิ่นประมาทนั้นถือว่าเป็นผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ได้ เรื่องนี้พระภิกษุนาคไม่ใช่เจ้าพนักงานและคำที่จำเลยกล่าวก็ไม่เป็นหมิ่นประมาท ฉะนั้น จึงจะนำคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวมาเทียบไม่ได้ ศาลล่างพิพากษาชอบแล้ว
ส่วนตามฟ้องข้อ ข. ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ถ้อยคำที่จำเลยกล่าวต่อสามเณรทั้งสองซึ่งหน้าว่า ถ้าไม่ไป เดี๋ยวกูจะเตะลงกุฏิให้หมดนั้น เป็นถ้อยคำที่จำเลยมิได้กล่าวแก่บุคคลที่มีฐานะต่ำกว่า แต่ได้กล่าวแก่สามเณรซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนทั่วไปถือว่าควรเคารพกว่าบุคคลธรรมดา ฉะนั้น จึงไม่แต่เพียงจะเป็นถ้อยคำที่ไม่สุภาพและข่มขู่เท่านั้น หากเป็นการดูหมิ่นตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๓ ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๓ ให้ปรับเป็นเงิน ๑๐๐ บาท นอกจากที่แก้นี้แล้วให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share