แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พยานในพินัยกรรมซึ่งจะเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้นไม่ได้ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1653วรรคหนึ่ง หมายถึงพยานซึ่งต้องลงลายมือชื่อในแบบพินัยกรรมที่ทำขึ้นนั้น ส่วนการที่จำเลยซึ่งเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมนั่งอยู่ด้วยในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมทำพินัยกรรม แต่มิได้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในพินัยกรรม หาเป็นพยานในพินัยกรรมตามบทบัญญัติดังกล่าวไม่ พินัยกรรมดังกล่าวจึงไม่ตกเป็นโมฆะ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายหมัดเจ๊ะดะระหมาน ผู้ตาย ก่อนนายหมัดถึงแก่กรรม จำเลยทั้งสองได้ทำพินัยกรรมซึ่งคบคิดกันทำขึ้นพร้อมแสดงเจตนาลวงโดยพูดจาเกลี้ยกล่อมนายหมัดซึ่งมีอายุ ๑๐๐ ปี ไม่สามารถรับผิดชอบได้ด้วยตนเองว่าขอให้นายหมัดมอบอำนาจให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้แบ่งทรัพย์มรดกแก่ทายาทเพื่อมิให้เกิดความยุ่งยากต่อทายาทในภายหลัง นายหมัดสำคัญผิดกับไม่สามารถเข้าใจข้อความในหนังสือดังกล่าว จึงลงลายมือชื่อพร้อมกับพิมพ์ลายนิ้วมือลงในหนังสือพินัยกรรมดังกล่าว หรือมิฉะนั้นจำเลยทั้งสองบังคับข่มขู่ให้นายหมัดลงลายมือชื่อ และพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมดังกล่าว พินัยกรรมดังกล่าวจึงไม่มีผลบังคับ ขอให้เพิกถอนพินัยกรรมดังกล่าว
จำเลยทั้งสองให้การว่า นายหมัดทพินัยกรรมขึ้นตามความประสงค์เอง และกระทำการขณะที่มีสติสัมปชัญญะดี พินัยกรรมดังกล่าวจึงสมบูรณ์ตามกฎหมาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายหมัดทำพินัยกรรมโดยใจสมัครในขณะมีสติสัมปชัญญะปกติ ส่วนที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยทั้งสองนั่งอยู่ด้วยในขณะนายหมัดทำพินัยกรรม เท่ากับจำเลยทั้งสองเป็นพยานรู้เห็นในการทำพินัยกรรม มีฐานะเสมือนพยานลงลายมือชื่อในพินัยกรรม พินัยกรรมจึงตกเป็นโมฆะนั้น เห็นว่า พยานในพินัยกรรมซึ่งจะเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้นไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕๓วรรคหนึ่ง หมายถึงพยานซึ่งต้องลงลายมือชื่อในแบบพินัยกรรมที่ทำขึ้นนั้น ส่วนการที่มีผู้นั่งอยู่ด้วยในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมทำพินัยกรรม แต่มิได้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในพินัยกรรม จึงหาเป็นพยานในพินัยกรรมตามบทบัญญัติดังกล่าวไม่ คดีนี้ได้ความว่าจำเลยทั้งสองนั่งอยู่ด้วยในขณะที่นายหมัดทำพินัยกรรมเท่านั้น จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นพยานลงลายมือชื่อในพินัยกรรม พินัยกรรมจึงไม่ตกเป็นโมฆะ
พิพากษายืน.