คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2529

แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

สัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่งระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ระบุไว้ว่าหากจำเลยชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จสิ้นตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วโจทก์จะถอนฟ้องคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้รับผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯนั้นไม่มีผลเป็นการยอมความทางอาญาสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงยังไม่ระงับ จำเลยไม่ได้เป็นหนี้โจทก์แต่ได้ออกเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้ผู้อื่นถือไม่ได้ว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้โดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินแม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คจำเลยก็ไม่มีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ.

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยออกเช็คตามฟ้องให้โจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้เงินกู้ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ระงับไปแล้วเพราะโจทก์ได้ฟ้องภรรยาจำเลย และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 213/2523ของศาลจังหวัดอุบลราชธานี พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า โจทก์ฎีกาว่า สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ยังไม่ระงับ เพราะโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ก่อนที่โจทก์ฟ้องและทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 213/2523 การทำสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวมิได้มุ่งหมายจะให้สิทธินำคดีนี้มาฟ้องระงับไปด้วย พิจารณาแล้วได้ความว่าโจทก์ฟ้องคดีแพ่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2523 และทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในวันที่ 15 กรกฎาคม 2523 หลังจากฟ้องคดีนี้ ในสัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 4 มีข้อความว่า หากจำเลยทั้งสองในคดีนั้น ชำระหนี้ให้โจทก์เสร็จสิ้นตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว โจทก์จะถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ศาลจังหวัดธัญบุรีให้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความอย่างนี้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ จึงมิได้ระงับไปตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ฎีกาโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น
ปัญหาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องหรือไม่นั้น ตามคำเบิกความของโจทก์ได้ความว่า เมื่อ พ.ศ. 2521 นางเกียว ตั้งบัณฑิต ภรรยาจำเลยยืมเงินโจทก์แล้วออกเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาอุบลราชธานี เพื่อชำระหนี้ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์ฟ้องนางเกียวกับพวกทางอาญา ศาลจังหวัดอุบลราชธานีมีคำสั่งประทับฟ้องจำเลยและนางเกียวกับพวกขอประนีประนอม ยอมชำระเงินให้โจทก์1,800,000 บาทเศษ ได้ชำระเงินให้บางส่วน จำเลยได้ออกเช็คตามฟ้องให้โจทก์เพื่อชำระหนี้แทนนางเกียว จากคำเบิกความดังกล่าวจะเห็นได้ว่านางเกีจวกับพวกเป็นหนี้โจทก์ จำเลยเองไม่ได้เป็นหนี้ จำเลยนำสืบว่า ได้ออกเช็คตามฟ้องให้โจทก์เพื่อค้ำประกันการชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความของนางเกียวภรรยา และได้ความตามคำเบิกความของโจทก์เองว่า หากนางเกียวไม่ชำระหนี้ครบ โจทก์ก็นำสัญญามาฟ้องนางเกียวได้ การออกเช็คให้โจทก์จึงน่าออกเพื่อเป็นหลักประกันเมื่อจำเลยไม่ได้เป็นหนี้โจทก์แต่ได้ออกเช็คให้โจทก์เพื่อเป็นประกันผู้อื่นจะถือว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้โดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงิน อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คไม่ได้ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้องที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องนั้น ศาลฎีกาเห็นด้วยในเหตุผล ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share