แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การขอผัดชำระค่าสินค้าด้วยวาจา ไม่ถือว่าเป็นการรับสภาพหนี้อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
โจทก์ผู้เป็นพ่อค้าใช้สิทธิเรียกร้องราคาสินค้าจากจำเลยเกินกว่า 2 ปี นับแต่วันถึงกำหนดชำระ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2521 โจทก์ซึ่งเป็นพ่อค้าส่งสินค้าคอปเปอร์ซัลเฟตชนิดแห้ง จำนวน 300 กิโลกรัม ราคา 16,500 บาท และวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2521ได้ส่งสินค้าแมงกานิสซัลเฟตจำนวน 200 กิโลกรัม เป็นเงิน 3,600 บาทให้จำเลยตามที่สั่งซื้อ จำเลยได้รับสินค้าทั้งสองรายการแล้ว และจำเลยจะต้องชำระค่าคอปเปอร์ซัลเฟตก่อนวันที่ 2 มีนาคม 2521 และค่าแมงกานิสซัลเฟตชำระก่อนวันที่ 24 เมษายน 2521 ตามใบเก็บเงินเอกสารหมาย จ.1และ จ.2 ตามลำดับ เมื่อครบกำหนดชำระราคาสินค้าทั้งสองรายการจำเลยเพิกเฉย เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2521 โจทก์ให้พนักงานเก็บเงินของโจทก์ไปวางใบเก็บเงิน พนักงานของจำเลยลงลายมือชื่อรับใบเก็บเงินไว้ตามเอกสารหมาย จ.5 จำเลยก็ไม่ชำระราคาสินค้าทั้งสองรายการดังกล่าวอีกโจทก์จึงฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2523
พิเคราะห์แล้ว ปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยขอผัดชำระหนี้ด้วยวาจาถือเป็นการรับสารภาพหนี้ต่อโจทก์อันทำให้อายุความฟ้องร้องของโจทก์สะดุดหยุดลงนั้น เห็นว่า การที่จำเลยพูดขอผัดชำระค่าสินค้าที่จำเลยค้างชำระโจทก์ด้วยวาจา ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้รับสภาพหนี้ต่อเจ้าหนี้ด้วยการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่า จำเลยยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์ อันจะเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 เมื่อโจทก์ผู้เป็นพ่อค้าใช้สิทธิเรียกร้องราคาสินค้าจากจำเลยเกินกว่าสองปีนับแต่วันถึงกำหนดชำระ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(1)”
พิพากษายืน