คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5376/2544

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คำว่า จำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4 หมายความว่า ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยนให้ การที่จำเลยเป็นผู้จัดหายาเสพติดให้โทษมาให้แก่ ช. โดย ช. ต้องมอบเงินให้แก่จำเลย ส่วนจำเลยจะไปหายาเสพติดให้โทษมาจากที่ใด อย่างไรหาได้เกี่ยวข้องกับ ช. ไม่ ช. เป็นเพียงผู้ต้องการยาเสพติดให้โทษ เมื่อมอบเงินให้จำเลยไปจำเลยก็จัดหายาเสพติดให้โทษมามอบให้ จึงต้องถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะผู้จำหน่ายตามความหมายในมาตรา 4 โดยไม่ต้องคำนึงว่ายาเสพติดดังกล่าวจะเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยหรือไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำนวน 5 เม็ดครึ่ง น้ำหนักรวม 0.44 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำนวนดังกล่าวให้แก่ผู้อื่น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15,66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่งจำคุก 5 ปี คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสามคงจำคุก 3 ปี 4 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี 6 เดือนนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่าในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง นายช้วน ทับทิมศรี ได้มอบเงินจำนวน360 บาท ให้จำเลยเพื่อไปจัดหาเมทแอมเฟตามีนมาให้ และจำเลยได้นำเมทแอมเฟตามีนตามฟ้องมาให้นายช้วน จึงถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับมาฟ้องเป็นคดีนี้ จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าจำเลยเป็นเพียงผู้ไปซื้อยาเสพติดให้โทษจากบุคคลภายนอกแทนนายช้วน ถือไม่ได้ว่าเป็นการจำหน่าย ตามความหมายในมาตรา 4แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 การกระทำดังกล่าวของจำเลยไม่เป็นความผิดตามฟ้อง เห็นว่า คำว่า จำหน่ายตามมาตรา 4 ดังกล่าวนั้น หมายความว่า ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยนให้ กรณีของจำเลย ปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้จัดหายาเสพติดให้โทษมาให้แก่นายช้วนโดยนายช้วนต้องมอบเงินให้แก่จำเลย ส่วนจำเลยจะไปหายาเสพติดให้โทษมาจากที่ใด อย่างไรหาได้เกี่ยวข้องกับนายช้วนไม่ นายช้วนเป็นเพียงผู้ต้องการยาเสพติดให้โทษ เมื่อมอบเงินให้จำเลยไปจำเลยก็จัดหายาเสพติดให้โทษมามอบให้ตามที่นายช้วนต้องการ จึงต้องถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะผู้จำหน่ายตามความหมายในมาตรา 4 ดังกล่าว โดยไม่ต้องคำนึงว่ายาเสพติดดังกล่าวจะเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยหรือไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share