คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์รับจ้างตักดินให้จำเลย โดยคิดค่าจ้างเป็นรายเที่ยวรถ การที่จำเลยออกใบเสร็จว่าโจทก์ได้ตักดินให้แล้ว เป็นจำนวนกี่เที่ยวรถมอบให้โจทก์ไว้ ดังนี้เป็นการยอมรับต่อโจทก์ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามข้อความในใบเสร็จดังกล่าวจึงเป็นการรับสภาพหนี้ อายุความในสิทธิเรียกร้องค่าจ้างของโจทก์ย่อมสะดุดหยุดลง และเริ่มนับใหม่ในวันที่ออกใบเสร็จคือวันที่ 23 พฤศจิกายน 2521 เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องใน วันที่ 21 พฤศจิกายน 2523 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165 (8)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ ๒ ถึงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ใช้รถเครนตักดินบริเวณกิโลเมตรที่ ๔ เขตบางเขน โดยคิดเป็นเที่ยวรถถ้าเป็นรถบรรทุก ๖ ล้อ คิดค่าจ้างคันละ ๒๐ บาท ถ้าเป็นรถ ๑๐ ล้อ คิดค่าจ้างคันละ ๔๐ บาท โจทก์ตักดินให้จำเลยเป็นรถ ๖ ล้อ ๓๐๓ คัน และรถ ๑๐ ล้อ๔๘๙ คัน เป็นค่าจ้างทั้งสิ้น ๒๕,๖๒๐ บาท โจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระหนี้รายนี้แล้ว จำเลยเพิกเฉยขอให้ศาลพิพากษาบังคับ
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยว่าจ้างโจทก์ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมค่าจ้างที่โจทก์เรียกร้องจากจำเลยขาดอายุความไปส่วนมาก เฉพาะค่าจ้างระหว่างวันที่ ๒๑-๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ เท่านั้น ที่ยังไม่ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระค่าจ้างตักดินให้โจทก์ ๒๑,๖๗๒ บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยในเรื่องอายุความว่า แม้โจทก์จะรับจ้างตักดินโดยคิดค่าจ้างเป็นเที่ยวรถ การที่จำเลยออกใบเสร็จมอบให้แก่โจทก์ว่าโจทก์ได้ตักดินให้จำเลยเป็นจำนวนกี่เที่ยวรถ ดังนี้ เป็นการยอมรับต่อโจทก์ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามข้อความในใบเสร็จดังกล่าว จึงเป็นการรับสภาพหนี้ อายุความในสิทธิเรียกร้องค่าจ้างของโจทก์ย่อมสะดุดหยุดลงและเริ่มนับใหม่ตั้งแต่วันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ ซึ่งเป็นวันที่จำเลยออกใบเสร็จดังกล่าวเป็นต้นไป เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๓คดีจึงไม่ขาดอายุความซึ่งมีกำหนดเวลา ๒ ปี
พิพากษายืน

Share