คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 537/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก็ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในวันแรม 9-10 ค่ำเวลากลางคืน ได้ความว่าจำเลยทำผิดในวันแรม 8 ค่ำจวนค่อนรุ่งลงโทษจำเลยไม่ได้ วันเวลาถือว่าเป็นรายละเอียดอันสำคัญที่ต้องแถลงในฟ้อง หากว่าฟ้องนั้นผิดวันและโจทก์มิได้ขอแก้เสียในเวลาสมควรปล่อยล่วงเลยมาศาลต้องยกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันแรม ๙-๑๐ ค่ำเดือน ๑๒ พ.ศ.๒๔๗๘ เวลากลางคืนจำเลยกระทำการลักทรัพย์ของ พ.ไปขอให้ลงโทษ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทำผิดในวันแรง ๘ ค่ำเดือน ๑๒ เวลาก่อนรุ่ง
ศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.๒๙๕
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จะลงโทษจำเลยในคดีนี้มิได้ เพราะวันแรง ๘ ค่ำที่จำเลยกระทำผิดนั้น โจทก์มิได้กล่าวมาในฟ้องอ้างประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.๑๙๒ วรรค ๑-๒
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามกฎหมายอาญา ม.๖(๔๒) จะนับว่าเป็นเวลาเกิดกลางคืนแรม ๙ ค่ำตามฟ้องหาได้ไม่ และเห็นด้วยกับศาลอุทธรณ์ที่ว่าประมวลวิธีพิจารณาความอาญามิได้ถือเป็นข้อสำคัญว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้หรือไม่ จึงจะยกฟ้องโจทก์ ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม.๑๕๘(๕) ก็ได้บัญญัติว่าในฟ้องต้องระบุวันเวลาที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี แต่ในคดีนี้ฟ้องของโจทก์ก็ระบุวันเวลามาแล้วแต่ผิดความจริงไป และตาม ม.๑๖๓-๑๖๔ เมื่อโจทก์รู้ว่าฟ้องของตนผิดก็ยังมีโอกาศที่จะขอแก้ได้ แต่โจทก์หาได้ทำดั่งนั้นไม่ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ยกฎีกาโจทก์

Share