คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5347/2551

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์เป็นผู้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินในบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 325-2-14xxx-x เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีหนังสือแจ้งอายัดไปยัดไปยังธนาคาร ก. ตามที่โจทก์แถลงขอและธนาคาร ก. ได้รับหนังสือแจ้งอายัดแล้ว กรณีจึงต้องถือว่าได้มีการอายัดไว้โดยชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 311 แล้ว เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการอายัดเนื่องจากบัญชีออมทรัพย์เลขที่ดังกล่าวมิใช่เป็นบัญชีของจำเลย โจทก์ผู้ขอให้อายัดจึงมีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอายัดแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายตามตาราง 5 ข้อ 4 ท้าย ป.วิ.พ. การที่ปรากฏในภายหลังว่าบัญชีออมทรัพย์ที่ขออายัดนั้นไม่ใช่ของจำเลย และธนาคารมีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบภายหลังที่ได้รับหนังสืออายัดแล้ว โจทก์จะยกมาเป็นข้ออ้างให้พ้นความรับผิดในค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีหาได้ไม่ กรณีจึงไม่มีเหตุให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำร้องของโจทก์

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 2,622,257.54 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 16.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 1,800,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 6 พฤษภาคม 2537) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ชำระหรือชำระไม่ครบให้ยึดทรัพย์จำนองตามฟ้องออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์ หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยออกขายทอดตลาดชำระหนี้แก่โจทก์จนครบถ้วน แต่จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งอายัดเงินฝากของจำเลยไปยังธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสำโรง (ศูนย์การค้าปู่เจ้าสมิงพราย) ต่อมาธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสำโรง (ศูนย์การค้าปู่เจ้าสมิงพราย) มีหนังสือแจ้งมายังเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า จำเลยมิใช่ลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสำโรง (ศูนย์การค้าปู่เจ้าสมิงพราย) และเลขที่บัญชีไม่ถูกต้อง เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงถอนการอายัดและแจ้งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมถอนการอายัดจำนวน 46,992.51 บาท
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีตามคำร้องถือได้ว่ามีการอายัดไว้โดยชอบแล้วเมื่อถอนการอายัดจึงต้องเสียค่าธรรมเนียมตามตาราง 5 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง การที่ปรากฏว่าเงินฝากที่อายัดนั้นเป็นคนละบัญชีกัน โจทก์จะยกมาเป็นข้ออ้างให้พ้นความรับผิดในค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีหาได้ไม่ จึงให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียนในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้เถียงกันในชั้นฎีการับฟังได้ว่า ภายหลังจากศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษาโจทก์ได้แถลงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีหนังสือแจ้งอายัดไปยังธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสำโรง (ศูนย์การค้าปู่เจ้าสมิงพราย) เพื่ออายัดเงินในบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 325-2-14xxx-x เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีหนังสือแจ้งอายัดไปตามที่โจทก์แถลงขอ ต่อมาธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสำโรง (ศูนย์การค้าปู่เจ้าสมิงพราย) มีหนังสือแจ้งมายังพนักงานบังคับคดีว่า จำเลยมิใช่ลูกค้าที่สาขาดังกล่าว และเลขบัญชีที่แจ้งไปก็ไม่ถูกต้อง เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงถอนการอายัดและแจ้งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมถอนการอายัดดังกล่าว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์ต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมถอนการอายัดจำนวน 46,992.51 บาท หรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า จำเลยไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสำโรง (ศูนย์การค้าปู่เจ้าสมิงพราย) การแจ้งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่มีผลเป็นการอายัดตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมถอนการอายัด เห็นว่า คดีนี้โจทก์เป็นผู้ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินในบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 325-2-14xxx-x เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีหนังสือแจ้งอายัดไปยังธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาสำโรง (ศูนย์การค้าปู่เจ้าสมิงพราย) ตามที่โจทก์แถลงขอและธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาดังกล่าวได้รับหนังสือแจ้งอายัดแล้ว กรณีจึงต้องถือว่าได้มีการอายัดไว้โดยชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 311แล้ว เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการอายัดเนื่องจากบัญชีออมทรัพย์เลขที่ดังกล่าวมิใช่เป็นบัญชีของจำเลยโจทก์ผู้ขอให้อายัดจึงมีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอายัดแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายตามตาราง 5 ข้อ 4 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง การที่ปรากฏในภายหลังว่าบัญชีออมทรัพย์ที่ขออายัดนั้นไม่ใช่ของจำเลย และธนาคารมีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบภายหลังที่ได้รับหนังสืออายัดแล้ว โจทก์จะยกมาเป็นข้ออ้างให้พ้นความรับผิดในค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีหาได้ไม่กรณีจึงไม่มีเหตุให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามคำร้องของโจทก์ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องของโจทก์นั้นชอบแล้วฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share