แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ที่ดินของโจทก์แบ่งแยกจากโฉนดซึ่งมีทางออกสู่ทางสาธารณะได้ ถ้าไม่ออกทางนี้โจทก์ไม่มีทางออก โจทก์มีสิทธิใช้ทางนี้ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1350
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าทางพิพาทในโฉนดของจำเลยเป็นทางจำเป็น โจทก์ใช้เข้าออกได้ ห้ามจำเลยปิดกั้น จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ทั้งสามไม่มีทางออกจากที่ดินของตนไปสู่ถนนสาธารณะ นอกจากทางพิพาทในที่ดินของจำเลยดังนั้นทางพิพาทจึงเป็นทางจำเป็น ทั้งคดียังได้ความว่า เดิมที่ดินของโจทก์และจำเลยเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน ได้แยกโฉนดกันเมื่อราว พ.ศ. 2510 ที่ดินดังกล่าวแม้มิได้อยู่ติดทางสาธารณะโดยตรง แต่ก็ติดทางที่จะออกไปสู่ถนนสาธารณะ ครั้นเมื่อแบ่งแยกโฉนด เป็นเหตุให้โจทก์ไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะได้ โจทก์จึงมีสิทธิใช้ทางพิพาทเป็นทางเดิมไปสู่ถนนสาธารณะไปอำเภอหนองแขมได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350จำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้น ที่จำเลยฎีกาขอให้ทำแผนที่พิพาทนั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความชัดแล้วว่าทางพิพาทคือทางที่ทำเป็นถนนขึ้นใหม่ตามแนวเส้นประสีน้ำเงินในเอกสาร จ.8 ไม่เป็นการขัดข้องในการบังคับคดี จึงไม่จำเป็นต้องทำแผนที่พิพาท”
พิพากษายืน