แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่เจ้าหนี้จะมีสิทธิฟ้องผู้ค้ำประกันให้ชำระหนี้ได้หรือไม่ก็พิจารณาเพียงว่า ลูกหนี้ผิดนัดแล้วหรือไม่เท่านั้น เมื่อลูกหนี้ผิดนัดแล้วเจ้าหนี้ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ค้ำประกันได้ แม้ขณะนั้นอายุความที่จะฟ้องลูกหนี้ยังสะดุดหยุดอยู่ก็ตาม การมีเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดอยู่ยังไม่สิ้นสุดลงนั้น เป็นเพียงทำให้ยังไม่เริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นผลกลับทำให้เจ้าหนี้มีระยะเวลาที่จะฟ้องลูกหนี้เป็นเวลายาวนานกว่าปกติ มิใช่ว่าจะทำให้เจ้าหนี้หมดสิทธิที่จะฟ้องผู้ค้ำประกันในขณะที่อายุความสะดุดหยุดอยู่แต่อย่างใด โจทก์ยื่นคำร้องขอพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลาย ย่อมทำให้อายุความฟ้องคดีของโจทก์สะดุดหยุดอยู่ แม้ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์รับชำระหนี้ได้ ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องการเฉลี่ยทรัพย์รายได้เป็นครั้งที่สุด เพื่อยังไม่มีการยกเลิกการล้มละลายและยังไม่ได้มีการเฉลี่ยทรัพย์รายได้เป็นครั้งที่สุด อายุความที่จะฟ้องลูกหนี้ยังคงสะดุดหยุดอยู่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยทั้งสองทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ตามสัญญาแลกเช็คเป็นเงินสดของห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานโลหะภัณฑ์การช่างไว้กับโจทก์ หลังทำสัญญาห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานโลหะภัณฑ์การช่างนำเช็คมาแลกเงินไปจากโจทก์รวม 4 ฉบับ โจทก์นำเรียกเก็บเงินแล้ว ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 229,200 บาท ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานโลหะภัณฑ์การช่างต้องรับผิดพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันปฏิเสธการจ่ายเงินแต่ละฉบับ ถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2520 อันเป็นวันที่ศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานโลหะภัณฑ์การช่าง ซึ่งในคดีล้มละลายดังกล่าวโจทก์นำหนี้จำนวน229,200 บาท ไปขอพิสูจน์หนี้และศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์รับชำระหนี้นั้นได้ โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2521 ขณะนี้คดีล้มละลายยังมิได้มีการยกเลิกการล้มละลายและการเฉลี่ยทรัพย์รายได้เป็นครั้งที่สุดเลย จำเลยทั้งสองในฐานะผู้ค้ำประกันต้องร่วมรับผิดขอให้จำเลยร่วมกันชำระเงิน 643,189.12 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีของต้นเงิน 229,200 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ลายมือชื่อจำเลยในสัญญาค้ำประกันไม่ใช่ลายมือชื่อจำเลย ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะตามสัญญาค้ำประกันการแลกเช็คนับถึงวันฟ้องมีระยะเวลา 12 ปี 3 เดือน นอกจากนั้นโจทก์รู้ถึงวันที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คฉบับสุดท้าย นับถึงวันฟ้องก็พ้นเวลา10 ปีแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ 2 ชำระเงิน229,200 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2ชำระเงิน 229,200 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่าเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2518 ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานโลหะภัณฑ์การช่าง ได้ทำสัญญาแลกเช็คเป็นเงินสดกับโจทก์ในวงเงินไม่เกิน 300,000 บาท และในวันเดียวกันจำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาค้ำประกัน การชำระหนี้ตามสัญญาแลกเช็คดังกล่าวไว้กับโจทก์โดยไม่จำกัดจำนวนเงิน และยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม หลังจากทำสัญญาดังกล่าวแล้วห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานโลหะภัณฑ์การช่างได้นำเช็คไปแลกรับเงินกับโจทก์ โจทก์นำเช็คนั้นไปเรียกเก็บเงินธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คจำนวน 4 ฉบับ รวมเป็นเงิน229,200 บาท ต่อมาศาลแพ่งมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานโลหะภัณฑ์การช่าง วันที่ 9 กันยายน 2520 โจทก์ได้นำหนี้ดังกล่าวขอรับชำระหนี้เพื่อพิสูจน์ในคดีล้มละลายนั้น วันที่9 กุมภาพันธ์ 2521 ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์รับชำระหนี้จำนวน229,200 บาท เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งให้โจทก์ทราบคำสั่งศาลดังกล่าวเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2521
จำเลยที่ 1 ฎีกาต่อไปว่า แม้หากจะฟังตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อายุความฟ้องคดีของโจทก์สะดุดหยุดลงเป็นผลมาจากการที่โจทก์ยื่นคำร้องขอพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลายเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2520แต่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยว่าจะเริ่มนับอายุความใหม่เมื่อใดและตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 178 วรรคแรกเดิมระบุว่าในการพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลายนั้นอายุความสะดุดหยุดอยู่จนกว่าจะยกเลิกการล้มละลายหรือจนกว่าเฉลี่ยทรัพย์รายได้เป็นครั้งที่สุดแต่ในการพิจารณาคดีนี้ไม่ปรากฏว่า คดีล้มละลายดังกล่าวจะมีการยกเลิกการล้มละลายหรือมีการเฉลี่ยทรัพย์รายได้เป็นครั้งที่สุดหรือไม่ ดังนั้น หากว่าอายุความที่สะดุดหยุดลงนั้นได้หยุดอยู่ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน สิทธิเรียกร้องของโจทก์ก็ยังไม่เกิดขึ้นโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 นั้น เห็นว่า การที่โจทก์จะมีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันให้ชำระหนี้เป็นคดีนี้ได้หรือไม่ ก็พิจารณาเพียงว่าลูกหนี้ผิดนัดแล้วหรือไม่เท่านั้นเมื่อลูกหนี้ผิดนัดแล้วโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ได้แม้ขณะนั้นอายุความที่จะฟ้องลูกหนี้ยังสะดุดหยุดอยู่ก็ตาม การมีเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดอยู่ยังไม่สิ้นสุดลงนั้น เป็นเพียงทำให้ยังไม่เริ่มนับอายุความขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นผลกลับทำให้โจทก์มีระยะเวลาที่จะฟ้องลูกหนี้เป็นเวลายาวนานกว่าปกติ มิใช่ว่าจะทำให้โจทก์หมดสิทธิที่จะฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันในขณะที่อายุความสะดุดหยุดอยู่ตามที่จำเลยที่ 1 อ้าง ส่วนที่จำเลยที่ 1ฎีกาต่อไปว่า เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์รับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2521 ทำให้เหตุที่อายุความสะดุดหยุดอยู่สิ้นสุดลงต้องเริ่มนับอายุความใหม่ในวันถัดไปคือวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2521 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 23กุมภาพันธ์ 2531 พ้นเวลา 10 ปี คดีของโจทก์จึงขาดอายุความนั้นเห็นว่า แม้ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์รับชำระหนี้ได้ดังกล่าวแต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องการเฉลี่ยทรัพย์รายได้เป็นครั้งที่สุดนอกจากนั้นยังฟังได้จากคำเบิกความของนางสาวกาญจนา พงศ์พิสุทธ์วณิชพยานโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายดังกล่าวว่าในวันที่พยานเบิกความ (วันที่ 29 พฤศจิกายน 2531) เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ไม่ได้ จึงยังไม่ได้แบ่งเงินให้กับใคร ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าขณะที่โจทก์ฟ้องคดีนี้คดีที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดโรงงานโลหะภัณฑ์การช่างลูกหนี้ถูกฟ้องล้มละลายยังไม่มีการยกเลิกการล้มละลาย และยังไม่ได้มีการเฉลี่ยทรัพย์รายได้เป็นครั้งที่สุด อายุความที่จะฟ้องลูกหนี้ยังคงสะดุดหยุดอยู่ คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ฎีกาของจำเลยที่ 1 ทั้งหมดฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน