แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 653 วรรค 2 มิได้บังคับว่าจะต้องมีใบรับเงินมาแสดง
เอกสารมีความว่า เรียนครูที่เคารพนับถืออันสูง กระผมได้ฝากนมมาให้ 1 โหล ราคา 44 บาท โปรดทราบเงินฝากไป 9,400 บาท กระผมได้รับและลงบัญชีไว้เรียบร้อยแล้ว ท้ายข้อความเป็นคำลงท้ายของหนังสือ วันเดือนปี และเซ็นชื่อโจทก์ ดังนี้เห็นได้ว่า เป็นจดหมายธุรกิจ เลยกล่าวถึงเงินที่จำเลยฝากไปให้โจทก์แล้วด้วย ไม่มีลักษณะเป็นใบรับเงินโดยเฉพาะ และตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 105 การรับเงินเช่นนี้ (ลูกหนี้ฝากเงินมาชำระหนี้เงินกู้) ก็มิได้บังคับว่าจะต้องออกใบรับเงินประการใดหนังสือฉบับนี้เป็นหลักฐานตามที่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา653 บังคับไว้เท่านั้น แม้จะไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ก็ฟังเป็นหลักฐานประกอบข้อเท็จจริงได้ว่า จำเลยได้ชำระหนี้จำนวนนี้ให้แก่โจทก์แล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินกู้ ๑๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การว่า จำเลยได้ชำระแล้ว ๙,๔๐๐ บาท ส่วนที่ค้างอีก ๖๐๐ บาท ได้มอบสิ่งของให้โจทก์ไปขายเอาเงินใช้หนี้
ศาลชั้นต้นให้จำเลยสืบก่อนโจทก์ขาดนัดพิจารณา ศาลดำเนินการพิจารณาคดีจำเลยไปฝ่ายเดียว แล้วฟังว่าจำเลยชำระหนี้ ๖๐๐ บาท ด้วยทรัพย์สินอย่างอื่นแทน ส่วนการชำระเงิน ๙,๔๐๐ บาท ตามใบรับหมาย ล.๑ มิได้ปิดอากรแสตมป์ จึงใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ ตาม ประมวลรัษฎากรมาตรา ๑๑๘ ถือว่าจำเลยไม่มีพยานหลักฐานสืบตามข้อต่อสู้ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินกู้ ๙,๔๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ว่า เอกสาร ล.๑ นั้นไม่ใช่ใบรับเงิน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ทั้งหมด
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ วรรค ๒ บัญญัติว่า ในการกู้ยืมเงินมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้นท่านว่าจะนำสืบการใช้เงินได้ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดง ฯลฯ กฎหมายมิได้บังคับว่า จะต้องมีใบรับเงินมาแสดงเลย เอกสาร ล.๑ มีความว่า เรียนครูที่เคารพนับถืออันสูง กระผมได้ฝากนมมาให้ ๑ โหล ราคา ๔๔ บาท โปรดทราบเงินฝากไป ๙,๔๐๐ บาท กระผมได้รับและลงบัญชีไว้เรียบร้อยแล้ว ท้ายข้อความเป็นคำลงท้ายของหนังสือ วันเดือนปี และเซ็นชื่อโจทก์ ดังนี้เห็นได้ว่า เป็นจดหมายธุรกิจ เลยกล่าวถึงเงินที่จำเลยฝากไปให้โจทก์แล้วด้วย ไม่มีลักษณะเป็นใบรับเงินโดยเฉพาะตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๐๓อันจะต้องปิดอากรแสตมป์ และตาม มาตรา ๑๐๕ การรับเงินเช่นนี้ ก็มิได้บังคับว่าจะต้องออกใบรับเงินประการใดหนังสือฉบับนี้เป็นหลักฐานตามที่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา๖๕๓ บังคับไว้เท่านั้น แม้จะไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ก็ฟังเป็นหลักฐานประกอบข้อเท็จจริงได้ว่า จำเลยได้ชำระหนี้จำนวนนี้ให้แก่โจทก์แล้ว
พิพากษายืน