คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีขายฝากที่นาสินสมรสไว้ ภายหลังได้ละทิ้งภรรยา ภรรยาไม่มีเงิน จึงต้องขายนานี้ขาดแก่ผู้รับซื้อฝากเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงบุตร ดังนี้ สัญญาขายนี้จึงผูกพันสินบริคณห์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1480-1482 สามีจะบอกล้างมิได้

ย่อยาว

โจทก์ขายฝากที่นาสินสมรส 1 แปลงให้แก่จำเลยเป็นเงิน 500 บาทต่อมาโจทก์ได้ละทิ้ง นางหวองภรรยา ๆ จึงได้ขายที่พิพาทนี้แก่จำเลยโดยเพิ่มเงินอีก 280 บาท โจทก์มาฟ้องขอให้ศาลทำลายสัญญาซื้อขายและให้จำเลยรับไถ่นารายนี้

ศาลชั้นต้น ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ละทิ้งนางหวอง ๆ จึงได้ขายที่พิพาทให้แก่จำเลย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 39(2) อนุญาตให้หญิงมีสามีทำการผูกพันสินบริคณห์ได้โดยมิต้องได้รับอนุญาตจากสามี เมื่อสามีละทิ้งตน นิติกรรมการซื้อขายระหว่างนางหวองกับจำเลยจึงสมบูรณ์ พิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์ ฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ไม่ได้ละทิ้งนางหวองจึงมีอำนาจบอกล้างสัญญาซื้อขายได้พิพากษากลับ ว่าสัญญาซื้อขายเป็นโมฆะ ให้จำเลยรับไถ่นา

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกา เชื่อว่าโจทก์ละทิ้งนางหวองจริง ตามข้อวินิจฉัยชี้ขาดของศาลชั้นต้น

นารายนี้ แม้จะฟังว่าเป็นสินสมรส แต่ก็ปรากฏว่านางหวองไม่มีเงิน จึงต้องขายนารายนี้เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงบุตร และโจทก์ก็ได้อาศัยกินอยู่ด้วย สัญญาขายนี้จึงผูกพันสินบริคณห์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1480-1482 โจทก์จะบอกล้างมิได้ จึงพิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share