แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ฟ้องคดีแทน ในหนังสือมอบอำนาจมีความว่า โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแก่ร้าน อ. เกี่ยวกับสินค้าที่ร้าน อ. สั่งซื้อไปจากโจทก์และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยประกอบกิจการค้าโดยใช้สมญานาม ว่า อ. จึงเห็นได้ว่า การที่โจทก์มอบอำนาจให้ ป. ดำเนินคดีแก่ร้าน อ. ก็เท่ากับ โจทก์มอบอำนาจให้ป.ดำเนินคดีแก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร้าน อ. นั่นเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายประเสริฐดำเนินคดีแทน จำเลยประกอบการค้าโดยใช้สมญานามทางการค้าว่า “อมรโลหะภัณฑ์” จำเลยได้ซื้อสินค้าจากโจทก์แล้วผิดนัดไม่ชำระราคา ขอให้พิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าสินค้าแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า นายประเสริฐไม่มีอำนาจฟ้องเพราะใบมอบอำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และโจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้นายประเสริฐฟ้องจำเลยจำเลยไม่เคยซื้อสินค้าจากโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่จำเลยฎีกามีว่า ตามใบมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.1 จะถือได้หรือไม่ว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายประเสริฐดำเนินคดีแก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร้านอมรโลหะภัณฑ์ เห็นว่าเอกสารหมาย จ.1 มีความว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายประเสริฐดำเนินคดีแก่ร้านอมรโลหะภัณฑ์เกี่ยวกับสินค้าที่ร้านอมรโลหะภัณฑ์สั่งซื้อไปจากโจทก์ และโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยประกอบกิจการค้าโดยใช้สมญานามทางการค้าว่า “อมรโลหะภัณฑ์” ฉะนั้น จึงเห็นได้ว่าการที่โจทก์มอบอำนาจให้นายประเสริฐดำเนินคดีแก่ร้านอมรโลหะภัณฑ์ ก็เท่ากับว่าโจทก์มอบอำนาจให้นายประเสริฐดำเนินคดีแก่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของร้านอมรโลหะภัณฑ์นั่นเอง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน